อาการและอาการแสดงของครรภ์เป็นพิษ
ครรภ์เป็นในระยะเริ่มแรกหรือในรายที่ไม่รุนแรงอาจจะไม่มีอาการ หรือมีอาการเหมือนคนตั้งครรภ์ทั่วๆไป การเรียนรู้ถึงอาการของครรภ์เป็นพิษจะทำให้ผู้ตั้งครรภ์ตระหนักถึงโรคนี้อาการของครรภ์เป็นพิษ
อาการของครรภ์เป็นพิษ
- ไม่มีอาการ
- ความดันโลหิตสูง
- ตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ
- บวมหลังเท้า
- น้ำหนักเพิ่ม
- คลื่นไส้อาเจียน
- แน่ท้อง และหรือแน่นไหล่
- ปวดหลัง
- ปวดศีรษะ
- ตามัวลง
- Hyperreflexia
- อาการอื่นๆ
ไม่มีอาการ
แม้ว่าครรภ์เป็นพิษจะเป็นโรคที่อาจจะทำอันตรายให้กับแม่และทารก แต่บางท่านอาจจะไม่มีอาการ หรือมีอาการเหมือนคนตั้งครรภ์ปกติ บางท่านครรภ์เป็นพิษแพทย์ให้นอนโรงพยาบาลแต่ผู้ป่วยไม่ยอมนอนเนื่องจากไม่มีอาการ ความดันโลหิตสูงจะเป็นสิ่งตรวจพบที่สำคัญซึ่งผู้ป่วยส่วนหนึ่งจะไม่มีอาการเตือนว่าความดันโลหิตเริ่มสูง ดังนั้นสตรีที่ตั้งครรภ์รวมทั้งญาติจะต้องเฝ้าระวัง
จะต้องปฏิบัติอย่างไร
- สิ่งที่สำคัญคือการฝากครรภ์ ให้ไปตามกำหนดทุกครั้ง วัดความดันโลหิต และตรวจปัสสาวะเพื่อหาโปรตีนซึ่งเป็นการตรวจเพื่อค้นหาครรภ์เป็นพิษ
- การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ รับวิตามินอย่างครบถ้วน ลดการรับประทานอาหารสำเร็จรูป น้ำตาล กาแฟ
- งดการดื่มสุรา
- งดยาที่ซื้อเอง งอสมุนไพร
ความดันโลหิตสูง
ความดันโลหิตมากกว่า 140/90 มม ปรอทโดยวัดสองครั้งห่างกัน 6 ชั่วโมงหากเกิน 140/90 มม ปรอทก็จัดว่าความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่มีความดันตัวล่างเพิ่มขึ้น 15 มม ปรอท หรือตัวบนเพิ่มขึ้น 30 มม ปรอท ทั้งสองกรณีจะต้องติดตามใกล้ชิด และติดตามอาการอื่น
ข้อต้องปฏิบัติ
- ก่อนตั้งครรภ์ท่านควรจะทราบว่าความดันโลหิตเป็นเท่าไร ให้ถามแพทย์ทุกครั้ง
- ซื้อเครื่องวัดความดันโลหิตและเปรียบเทียบเครื่องของท่านกับแพทย์
- ค่าความดันที่แพทย์วัดจะเที่ยงกว่าค่าที่วัดที่บ้าน
- หากท่านเป็นครรภ์เป็นพิษอย่างไม่รุนแรงแพทย์จะแนะนำให้ท่านพักเพื่อลดความเครียด นอนตะแคงซ้ายเพื่อป้องกันมดลูกไปกดหลอดเลือด
ตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ
การตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะจะเป็นตัวบอกว่าเป็นโรคครรภ์เป็นพิษ แพทย์บางท่านอาจจะเก็บปัสสาวะตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อหาปริมาณโปรตีนในปัสสาวะ
บวมหลังเท้า
คนท้องทั่วไปอาจจะมีอาการบวมที่เท้าโดยไม่สามารถใส่รองเท้าได้ ให้สังเกตมือ ใบหน้า ขอบตาว่าบวมหรือไม่
ข้อปฏิบัติ
หากสงสัยว่าหน้ากลม มือบวมให้หาภาพถ่ายเก่ามาเปรียบเทียบ หรืออาจจะกดที่หลังเท้าจะพบว่ามีรอยบุ๋ม
น้ำหนักเกิน
การที่น้ำหนักเกิน 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์จะบ่งบอกว่าเป็นครรภ์เป็นพิษ เนื่องจากน้ำและเกลือไม่ได้ถูกขับออกทางไต
ข้อควรปฏิบัติ
- ให้รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพก่อนการตั้งครรภ์
- หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม
- ระหว่างการตั้งครรภ์ให้ได้รับวิตามินครบถ้วนตามแพทย์สั่ง
- ก่อนการตั้งครรภ์ให้ควบคุมน้ำหนักมิให้ดัชนีมวลกายเกิน 30 เพราะคนอ้วนจะเกิดครรภ์เป็นพิษได้ง่าย
- ห้ามคุมน้ำหนักโดยการอดอาหาร
- ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ
คลื่นไส้อาเจียน
อาการคลื่นไส้อาเจียนสำหรับการแพ้ท้องจะหายไปในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ หากมีอาการคลื่นไส้อาเจียนช่วงกลางของการตั้งครรภ์ให้สงสัยว่าจะเกิดอาการครรภ์เป็นพิษ
ข้อปฏิบัติ
หากมีอาการคลื่นไส้อาเจียนโดยเฉพาะช่วงกลางของการตั้งครรภ์ให้ปรึกษาแพทย์
ปวดท้องและปวดไหล่
หากมีอาการปวดบริเวณลิมปี่ หรือเจ็บชายโครงข้างขวา เกิดจากตับโตจะมีอาการเจ็บแน่นๆบริเวณลิมปี่และร้าวไปไหล่ข้างขวา เวลานอนหรือหายใจลึกๆจะปวดมากขึ้น
ข้อปฏิบัติ
หากอาการไม่ดีขึ้นให้ปรึกษาแพทย์
ปวดหลัง
ผู้ที่ตั้งครรภ์ก็มีอาการปวดหลัง สำหรับผู้ที่เป็นครรภ์เป็นพิษปวดหลังจะเกิดจากตับโต ดังนั้นหากมีอาการปวดหลังร่วมกับอาการอาการของครรภ์เป็นพิษก็สงสัยว่าครรภ์เป็นพิษ
ปวดศีรษะ
ปวดตุ๊บ ปวดแน่นๆ อาการปวดศีรษะเหมือนปวดศีรษะไมเกรน หากรับประทานยาแก้ปวดแล้วยังไม่ดีขึ้นให้พบแพทย์ที่ดูแลท่าน
การเปลี่ยนแปลงการมองเห็น
การเปลี่ยนแปลงการมองเห็นเป็นอาการที่สำคัญของผู้ป่วยครรภ์เป็นพิษ เนื่องจากอาจจะเกิดจากสมองบวม หรือสมองได้รับการกระตุ้น การเปลี่ยนแปลงที่พบได้บ่อยได้แก่ ตาบอดชั่วขณะ ตาเห็นแสงเหมือแสงฟ้าแลบ แพ้แสงจ้า ตามัว
ข้อปฏิบัติ
หากมีอาการทางสายตาต้องปรึกษาแพทย์ที่ดูแลท่านทันที
อาการพบบ่อยของครรภ์เป็นพิษ คือ
- มีความดันโลหิตสูงมากกว่าหรือเท่ากับ 140/90 มม.ปรอท
- ตรวจพบโปรตีนไข่ขาวในปัสสาวะ
- น้ำหนักเพิ่มมากอย่างรวดเร็ว
- มีอาการบวมตามใบหน้า มือ ข้อเท้าและเท้า
- ปวดศีรษะโดยเฉพาะบริเวณท้ายทอย หน้าผาก โดยรับประทานยาแก้ปวดแล้วไม่ดีขึ้น
- มีตาพร่ามัว อาจตาบอดชั่วขณะได้
- จุกแน่นหน้าอก หรือบริเวณลิ้นปี่
- หากอาการรุนแรงอาจมีอาการชักกระตุกทั้งตัว เกิดเลือดออกในสมองได้
เมื่อตั้งครรภ์ และมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์ หรือรีบพบแพทย์ก่อนวันนัด คือ
- ปวดศีรษะรุนแรง และมีอาการตาพร่ามัว หรือมองเห็นแสงวูบวาบ
- มีอาการจุกแน่นใต้ลิ้นปี่
- มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนมาก
- น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- มีอาการบวมตาม ใบหน้า มือ ข้อเท้า และเท้า
สาเหตุ อาการ การวินิจฉัย ผู้ที่เสี่ยง การรักษา โรคแทรกซ้อน ครรภ์เป้นพิษ