วัคซีนTd หรือ Tdap
เป็นวัคซีนที่ใช้สำหรับวัยรุ่นและผู้ใหญ่
- Td เป็นวัคซีนที่ใช้ฉีดกระตุ้น เพื่อป้องกันโรคบาดทะยัก และคอตีบสำหรับผู้ใหญ่ ให้ฉีดทุก 10 ปี หรือเกิดบาดแผล จำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก
- Tdap จะเหมือนกับวัคซีน Td แต่จะมีวัคซีนป้องกันโรคไอกรน วัคซีนนี้ควรจะได้อย่างน้อยหนึ่งครั้งโดยทดแทน Td วัคซีน Tdap จะมีความสำคัญมาก สำหรับผู้ต้องอยู่ใกล้กับทารก
- ผู้ที่อายุมากกว่า 11 ปีขึ้นไปควรจะได้วัคซีน Tdap แนะนำให้ตอนอายุ 11-12 ปี
- Tdap อาจจะให้กับเด็กอายุ 7-10 ปี ซึ่งยังได้วัคซีนไอกรนไม่ครบ
- สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ควรจะได้รับวัคซีน Tdap ในระหว่างตั้งครรภ์โดยเฉพาะในช่วงอายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์เพื่อให้ภูมิคุ้มกันจากแม่ไปสู่ทารกในครรภ์ วัคซีนนี้ปลอดภัยสำหรับคนตั้งครรภ์
- สำหรับมารดาที่ยังไม่เคยได้วัคซีนนี้ควรจะได้วัคซีน Tdap โดยเร็ว
- วัคซีน Tdap จะให้เมื่อใดก็ได้โดยไม่ขึ้นกับว่าเคยได้วัคซีน Td มาเมื่อใด
T,D,P หมายถึงวัคซีนที่มีขนาดวัคซีนมากสำหรับฉีดในเด็ก d,t,p จะมีการลดขนาดของวัคซีนใช้สำหรับฉีดกระตุ้นในผู้ใหญ่ ส่วน a หมายถึงไม่มีเซลล์ ใช้เพียงส่วนประกอบของเชื้อไอกรน
DTaP เป็นวัคซีนที่ใช้สำหรับเด็กอายุน้อยกว่า 7 ปีเพื่อสร้างภูมิต่อโรคบาดทะยัก คอตีบและไอกรน ส่วนTdap เป็นวัคซีนสำหรับฉีดกระตุ้นเมื่ออายุ 11 ปีขึ้นไป
ข้อแตกต่างของ DTaP and Tdap
วัคซีนทั้งสองชนิดจะใช้สำหรับฉีดป้องกันโรคบาดทะยัก คอตีบ และไอกรน DTaP เป็นวัคซีนที่ใช้สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี Tdap เป็นวัคซีนที่ลดปริมาณวัคซีนต้านโรคคอตีบและไอกรน วัคซีนนี้ใช้กับเด็กที่มีอายุมากกว่า 11 ปีและผู้ใหญ่ โดยปกติระดับภูมิคุ้มกันโรคจะลดลงดังนั้นจึงแนะนำให้มีการใช้วัคซีน Td กระตุ้นทุก 10 ปี และแนะนำว่าควรจะใช้ Tdap แทน วัคซีน Td หนึ่งครั้งเพื่อสร้างภูมิต่อโรคไอกรน เด็กควรจะได้รับการฉีดวัคซีน DTaP ทั้งหมด 5 ครั้งตามตาราง
- อายุ 2 เดือน
- อายุ 4 เดือน
- อายุ 6 เดือน
- อายุ 15-18 เดือน
- อายุ 4-6 ปี
ข้อห้ามในการฉีดวัคซีน DTaP
- เด็กกำลังป่วยควรจะให้หายป่วยค่อยฉีด
- แพ้ยานี้ชนิดรุนแรง
- เป็นโรคทางระบบประสาทก่อนการฉีด 5 วัน
- เด็กอายุน้อยกว่า 6 สัปดาห์
หากบุตรท่านมีอาการดังต่อไปนี้ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีดวัคซีน.
- มีอาการชักหลังฉีด DTaP
- เด็กร้องติดต่อกัน 3 ชม หลังจากฉีด DTaP
- มีไข้มากกว่า 105 F หลังได้วัคซีน DTaP
ผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน
ผลข้างเคียงของวัคซีนทั้งสองนับว่าน้อยมาก และหากจะเทียบกับความเสี่ยงของการเกิดโรคแล้วยิ่งคุ้มค่าในการฉีดวัคซีน แต่อย่างไรก็ตามอาจจะเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ได้ซึ่งมักจะเกิดไม่กี่นาทีหลังฉีด อาการที่ควรจะต้องเฝ้าระวังได้แก่
- หายใจลำบาก
- เสียงแหบ
- หายใจเสียงดังหวีด
- ลมพิษ
- หน้าซีด
- ใจเต้นเร็ว
- หน้ามืด
ผลข้างเคียงของยาที่พบได้บ่อย
- มีไข้
- ร้อนและบวมบริเวณที่ฉีด
- ปวดบริเวณที่ฉีด
- คลื่นไส้อาเจียน
- เพลีย
ผลข้างเคียงมักจะเกิดภายใน 3 วันหลังฉีดและหายอย่างรวดเร็ว