แผนการรักษาหอบเฉียบพลัน
- โรคหอบหืดเป็นโรคเรื้อรังโดยทั่วไปสามารถควบคุมได้ดีด้วยยา แต่บางครั้งผู้ป่วยได้รับสิ่งกระตุ้น ทำให้เกิดอาการหอบเฉียบพลันผู้ป่วยจำเป็นต้องทราบถึงอาการก่อนเกิดโรคหอบหืด
สามารถประเมินความรุนแรงของโรคหอบหืด และสามารถดูแลตัวเองในเบื้องต้นได้ การรักษาหอบหืดเฉียบพลันให้ได้ผลดีต้องประกอบไปด้วย แผนการรักษาหอบหืดเฉียบพลันด้วยตัวเองที่บ้าน
- ต้องสามารถรู้ถึงอาการเริ่มต้นของอาการหอบหืดเฉียบพลันรวมทั้งการประเมิน PEF
- สามารถปรับยาตามความรุนแรงของโรคได้
- ต้องหลีกภาวะที่กระตุ้นให้หอบหืดเป็นมากขึ้น
- สามารถติดต่อกับแพทย์ที่รักษาได้โดยทันที
การประเมินความรุนแรงของโรคหอบหืดอาศัย การตรวจPEF ความถี่ของการไอ ความรุนแรงของการไอ อาการแน่นหน้าอก การใช้กล้ามเนื้อซี่โครงในการหายใจ เมื่อเรื่มเกิดอาการหอบหืดเฉียบพลันต้องไม่ต้องตกใจ
ให้นั่งพักสงบใจพร้อมกับรีบรักษาดังนี้
หลังจากพ่นยาแล้วให้รีบประเมินผลการรักษาโดยประเมินจากอาการหอบ ค่า Peak
flow rate ซึ่งแบ่งการตอบสนองออกเป็น 3 รูปแบบดังนีคือ
-
ตอบสนองต่อรักษาอาการหอบหืดเฉียบพลันไม่รุนแรง
-
ค่า
PEF ที่ดีที่สุดในขณะที่ไม่หอบ= |
เป็นค่าที่ได้จากากรทำ PEF |
ค่า PEF ขณะหอบ= |
เป็นค่าที่วัดได้ในขณะหอบ ค่าที่วัดได้อยู่ระหว่าง 80% ถึง 100% ของค่า PEF ที่ดีที่สุด |
อาการของผู้ป่วย |
|
อาการหอบ |
หอบขณะเดิน
นั่งไม่หอบ |
พูด |
พูดได้ปกติ |
นอน |
นอนราบได้ |
ชีพขจร |
น้อยกว่า100ครั้ง/นาท |
การใช้ยาในภาวะหอบเฉียบพลันไม่รุนแรง
- หลังพ่นยา short-acting beta2-agonists 3 ครั้งอาการดีขึ้น PEFมากกว่า80%
ผู้ป่วยไม่หอบให้พ่นยาshort-acting beta2-agonists ทุก 4 ชั่วโมงอีก 2 วัน
- ให้พ่น inhaled steroid ขนาด 2 เท่าของขนาดปกติ
- หลังจากดีขึ้น2วันให้กลับไปพ่นยาตามขนาดเดิม
- หลังพ่นยา short-acting beta 2-agonist
แล้วไม่ดีขึ้นอาการแย่ลงให้ไปดูแผนการรักษาหอบหืดเฉียบพลันรุนแรงปานกลาง
-
ตอบการรักษาปานกลาง อาการหอบหืดเฉียบพลันรุนแรงปานกลาง
ค่า
PEF ที่ดีที่สุดในขณะที่ไม่หอบ= |
เป็นค่าที่ได้จากากรทำ PEF |
ค่า PEF ขณะหอบ= |
เป็นค่าที่วัดได้ในขณะหอบ ค่าที่วัดได้อยู่ระหว่าง 60% ถึง 80% ของค่า PEF ที่ดีที่สุด |
อาการของผู้ป่วย |
|
อาการหอบ |
หอบขณะเดิน
นั่งไมเหนื่อย่หอบ |
พูด |
พูดเป็นประโยคได้ พูดยาวๆจะเหนื่อยิ |
นอน |
นอนราบได้ |
ชีพขจร |
อยู่ระหว่าง100-120 ครั้ง/นาที |
การใช้ยาในภาวะหอบเฉียบพลันรุนแรงปานกลาง
- ให้พ่นยา Quick-relief
medications ทุก 20 นาที 3ครั้ง ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น ให้พ่นยาต่อ
- ให้พ่นยา Quick-relief medications 2-4 puffใน
space พ่นทุก1ชั่วโมงให้ต่อ3-4ชั่วโมงจนอาการดีขึ้นติต่อกัน 4 ชั่วโมงหรือจนกระทั่ง PEF>70%หลังจากนั้นพ่นทุก4ชั่วโมง
- ให้พ่น inhaled steroid 2 เท่าของขนาดปกติจน PEF
อยู่ใน มากว่า 80%จึงลดขนาดยาลงปกติ
- ให้กิน steroid เช่น prenisolone[5mg]
2เม็ดวันละ3ครั้ง
- ถ้าดีขึ้นโทรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับแผนการรักษา
- ถ้าไม่ดีขึ้นรีบพบแพทย์
-
ไม่ตอบสนองต่อการรักษา อาการหอบหืดเฉียบพลันชนิดรุนแรง
ค่า
PEF ที่ดีที่สุด= |
เป็นค่าที่ได้จากากรทำ PEF |
ค่า PEF ขณะหอบ= |
เป็นค่าที่วัดได้ในขณะหอบ ค่าที่วัดได้อยู่ระหว่าง น้อยกว่า 50% ของค่า PEF ที่ดีที่สุด |
อาการของผู้ป่วย |
|
อาการหอบ |
หอบพัก |
พูด |
พูดเป็นคำ พูดเป็นประโยคไม่ได้ |
นอน |
นอนราบไม่ได้ บางครั้งนั่งยังหอบ |
ชีพขจร |
มากกว่า120ครั้ง/นาที |
การหายใจ |
ใช้กล้ามเนื้อทรวงอกช่วยในการหายใจที่เรียกหอบจนซี่โครงบาน
จมูกบาน |
การใช้ยาในภาวะหอบเฉียบพลันชนิดรุนแรง
- ให้พ่นยา short-acting beta2-agonists 2-4 puffใน
space พ่นทุก20นาทีในชั่วโมงต่อไป
- ให้พ่น inhaled steroid 2 เท่าของขนาดปกติจน PEF >80%
- ให้กิน steroid 5mg 2เม็ดวันละ3ครั้ง
- ถ้าดีขึ้นให้พ่น short-acting beta2-agonists 2-4
puffใน space พ่นทุก4ชั่วโมงเป็นเวลา2วันและพ่น steroid ขนาด2เท่า
- ถ้าไม่ดีขึ้นภายใน10นาทีหลังพ่นshort-acting
beta2-agonists รีบนำส่งโรงพยาบาล
กลับไปหน้าแรก | แผนรักษาโรคหอบหืดเรื้อรัง
ต้องรู้เกี่ยวกับโรคหอบหืด | ต้องรู้จักวิธีพ่นยา | ต้องรู้จักชนิดของยาที่รักษา | ต้องมีแผนการรักษาด้วยตัวเอง | ต้องมีแผนฉุกเฉินในการรักเวลาหอบมาก | ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมที่แพ้ | ต้องรู้จักประเมินอาการของโรค | ต้องมีแผนเรื้อรัง