หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน
หลอดเลือดของเราเมื่อมีอายุมากขึ้นจะมีคราบไขมันเกาะที่ผนังหลอดเลือด โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน สูบบุหรี่จะมีคราบเกิดเร็ว เมื่อคราบใหญ่ขึ้นจะทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญลดลง เมื่อคราบใหญ่ขึ้นหรือเกิดลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดจนเลือดไม่สามารถผ่านไปเลี้ยงอวัยวะจนอวัยวะขาดเลือดหรือตาย
การให้ยาละลายลิ่มเลือดจะให้ได้ผลดีขึ้นกับระยะเวลาที่ให้ตั้งแต่เริ่มมีลิ่มเลือดอุดหลอดเลือด หากให้ช้าลิ่มเลือดจะละลายยาก หากสามารถให้ได้เร็วก็จะลดอัตราการเสียชีวิตลงได้
ยาที่ใช้สำหรับละลายลิ่มเลือดได้แก่
ข้อสังเกต
หากท่านมีโรคดังต่อไปนี้ควรจะบอกแพทย์ทุกครั้ง
ผลข้างเคียงจากการให้ยาละลายลิ่มเลือด
เนื่องยานี้อาจจะจะทำให้เลือดออกง่าย ท่านที่ใช้ยาดังต่อไปนี้ต้องบอกแพทย์
ยาที่ใช้ในการละลายลิ่มเลือด
rt-PAหรือAlteplaseเป็นยาฉีดละลายลิ่มเลือด(Thrombolytic agent) โดยAlteplaseเป็นไกลโคโปรตีนซึ่งเป็นตัวกระตุ้นโดยตรง เป็นผลให้เกิดการละลายของลิ่มเลือด ใช้ในผู้ป่วย acute ischemic stroke ,acute myocardial infarction acute massice pulmonary ambolismเป็นยาละลายลิ่มเลือดที่นิยมใช้ในภาวะฉุกเฉินมากที่สุด ข้อบ่งชี้ในการใช้
ยานี้ไม่มี antigenic ดังนั้นจึงสามารถให้ซ้ำได้
วิธีการให้ยา
เป็น recombinant tissue-type plasminogen activatorที่ออกฤทธิ์เร็ว และมีโรคแทรกซ้อนเลือดออกน้อยกว่า ใช้ในกรณีโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเท่านั้น
ขนาดยาที่ให้
ขณะนี้มีใช้เฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเท่านั้น แต่ก็มีการศึกษาอื่นว่าใช้ได้ในโรคหลอดเลือดสมองตีบ ข้อดีขอยานี้คือมีอุบัติการเลือดออกน้อย
ขนาดของยาที่ให้
จะให้ตามน้ำหนักโดยการผสมยา 50-mg vial in 10 mL sterile water (5 mg/mL).
โดยฉีดใน 5 วินาที ขนาดที่ให้ตามน้ำหนักตัวดังตารางข้างล่าง
เป็นยาละลายลิ่มเลือดที่มีราคาถูกที่สุด มี antigenic ทำให้เกิดอาการแพ้ และไม่สามารถให้ยานี้ซ้ำ
ขนาดที่ให้
ให้ขนาด 1.5 million Uใน 50 mL D5W ให้ในเวลา 1 ชั่วโมง