การเลือกโปรตีนสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
โปรตีนเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการ ผู้ป่วยโรคไตก็ยังต้องรับประทานอาหารที่ให้โปรตีน แต่ควรจำกัดปริมาณอาหารที่มีโปรตีนสูงทั้งจากพืชและเนื้อสัตว์ไม่ให้มากเกินไป เพื่อเป็นการลดการทำงานของไต ควรเลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูปที่มีการปรุงรส ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตในระยะ 1-2 รับประทานโปรตีนได้ปกติ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ควรเน้นปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน อกไก่ และถ้าเป็นโรคไตระยะที่ 3-4-5 ต้องจำกัดโปรตีนเหลือ 0.6 - 0.8 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมหรือถ้าจำกัดมากกว่านั้น คือ 0.4 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เน้นทานโปรตีนคุณภาพดี เช่น ไข่ ปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
- การรับประทานโปรตีนเข้าไป ร่างกายจะนำไปใช้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเกิดเป็นของเสีย ซึ่งไตทำหน้าที่ขจัดของเสียที่เกิดโปรตีนมากเกินไปก็จะทำให้ไตทำงานหนัก สำหรับผู้ป่วยที่มีไตเสื่อมอาจจะทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น ในทางกลับกัน ถ้ารับประทานน้อยเกินไปก็จะทำให้ขาดสารอาหาร ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังควรได้รับอาหารที่มีโปรตีนเหมาะสม เพื่อชะลอการเสื่อมของไต
- เลือกโปรตีนคุณภาพดี (High Biological Protein) คือ โปรตีนที่มีกรดอะมิโนจำเป็นต่อร่างกายครบถ้วน ได้แก่ เนื้อปลา เนื้อหมูสันใน เนื้อหมูไม่ติดมัน อกไก่ ไข่ขาว และนมพร่องมันเนย หรือนมไขมันต่ำ
- หลีกเลี่ยงสัตว์เนื้อแดง (เช่น เนื้อวัว เนื้อควาย) เนื้อสัตว์แปรรูป (เช่น หมูยอ ไส้กรอก แหนม แฮม ชีส)
- โรคไตเรื้อรัง (ระยะก่อนฟอกเลือด) หรือมีค่าการกรองไต (eGFR) ต่ำกว่า 30 ml/min/1.73m2 เลือกอาหารที่มีโปรตีนน้อย หรือตามที่แพทย์กำหนด
สูตรคำนวณโปรตีน : น้ำหนักตัวที่เหมาะสม x (0.6-0.8) = โปรตีนที่ควรได้รับต่อวัน (กรัม/วัน)
ตัวอย่าง เช่น น้ำหนักที่ควรจะเป็น 55 กิโลกรัม คำนวณโปรตีนได้ 55 x 0.8 = 44 กรัม/วัน
- โรคไตเรื้อรัง (ระยะหลังฟอกเลือด) เลือกอาหารที่มีโปรตีนค่อนข้างสูง หรือตามที่แพทย์กำหนด
สูตรคำนวณโปรตีน : น้ำหนักตัวที่เหมาะสม x 1.2 = โปรตีนที่ควรได้รับต่อวัน (กรัม/วัน)
ตัวอย่าง เช่น น้ำหนักที่ควรจะเป็น 55 กิโลกรัม คำนวณโปรตีนได้ 55 x 1.2 = 66 กรัม/วัน
คำแนะนำการรับประทานโปรตีนสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง (CKD)
ประเภทของโปรตีน:
โปรตีนจากสัตว์:
- เนื้อสัตว์: อกไก่ ปลา ทูน่า
- ไข่: ไข่ขาว
- นม: นมพร่องมันเนย โยเกิร์ต
โปรตีนจากพืช:
- ถั่ว: ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วลูกไก่
- เมล็ดพืช: เมล็ดเจีย เมล็ดฟักทอง
- ธัญพืช: ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง
- เต้าหู้: เต้าหู้แข็ง เต้าหู้หลอด
คำแนะนำทั่วไป:
- ผู้ป่วย CKD ควรจำกัดการรับประทานโปรตีน ทั้งจากสัตว์และพืช
- ปริมาณโปรตีนที่ควรได้รับต่อวัน ขึ้นอยู่กับระยะของโรค สภาวะร่างกาย และการรักษา
- ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
ข้อดีของโปรตีนจากสัตว์:
- ย่อยง่าย ดูดซึมเร็ว
- มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน
ข้อเสียของโปรตีนจากสัตว์:
- มีฟอสฟอรัสสูง โพแทสเซียมสูง
- ไขมันอิ่มตัวสูง
ข้อดีของโปรตีนจากพืช:
- ฟอสฟอรัสต่ำ โพแทสเซียมต่ำ
- ไขมันอิ่มตัวต่ำ
- ใยอาหารสูง
ข้อเสียของโปรตีนจากพืช:
- ย่อยยากกว่า ดูดซึมช้า
- อาจต้องผสมผสานโปรตีนจากพืชหลายชนิด เพื่อให้ได้กรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน
ตัวอย่างอาหารโปรตีนสำหรับผู้ป่วย CKD:
- อกไก่ย่าง ปลานึ่ง ไข่ขาวต้ม
- เต้าหู้ผัดผัก ถั่วต้ม ข้าวกล้อง
- โยเกิร์ต โรยเมล็ดเจีย ผลไม้
สรุป:
- ผู้ป่วย CKD ควรเลือกทานโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ย่อยง่าย และเหมาะสมกับระยะของโรค
- โปรตีนจากสัตว์และพืชมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ควรเลือกทานให้เหมาะสม
- ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นเพียงคำแนะนำทั่วไป โปรดปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับ individual case ของคุณ
การทานโปรตีนจากพืช อาจ ช่วยชะลอไตเสื่อมได้ ดังนี้:
1. ลดภาระการทำงานของไต:
- โปรตีนจากพืชมีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมต่ำ ไขมันอิ่มตัวต่ำ ช่วยลดภาระการทำงานของไต
2. ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด:
- โปรตีนจากพืชมีใยอาหารสูง ช่วยลดคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไต
3. ช่วยให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ:
- โปรตีนจากพืชมีใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน ลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไต
อย่างไรก็ตาม:
- โปรตีนจากพืชบางชนิด ย่อยยากกว่าโปรตีนจากสัตว์
- ผู้ป่วย CKD อาจต้องทานโปรตีนจากพืชหลายชนิด ผสมผสานกัน เพื่อให้ได้กรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน
คำแนะนำ:
- ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมต่อวัน
- เลือกทานโปรตีนจากพืชหลากหลายชนิด เช่น ถั่ว เต้าหู้ ธัญพืช
- ทานผักและผลไม้ใยอาหารสูง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
สรุป:
- โปรตีนจากพืช อาจ ช่วยชะลอไตเสื่อมได้
- ผู้ป่วย CKD ควรทานโปรตีนจากพืชหลากหลายชนิด ผสมผสานกับโปรตีนจากสัตว์ที่มีคุณภาพสูง ทานผักผลไม้ใยอาหารสูง ดื่มน้ำให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นเพียงคำแนะนำทั่วไป โปรดปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับ individual case ของคุณ
การรับประทานโปรตีนจากสัตว์ อาจ ส่งผลต่อการทำงานของไตในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง (CKD) ดังนี้:
1. เพิ่มภาระการทำงานของไต:
- โปรตีนจากสัตว์มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูง ซึ่งไตต้องทำงานหนักเพื่อกำจัดของเสียเหล่านี้ออกจากร่างกาย
- การรับประทานโปรตีนมากเกินไป อาจทำให้ไตทำงานหนัก เกิดภาวะไตทำงานเกิน และไตเสื่อมเร็วขึ้น
2. เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด:
- โปรตีนจากสัตว์บางชนิด มีไขมันอิ่มตัวและโซเดียมสูง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
อย่างไรก็ตาม:
- โปรตีนเป็นสารอาหารสำคัญต่อร่างกาย จำเป็นต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และสร้างภูมิคุ้มกัน
- ผู้ป่วย CKD ยังต้องการโปรตีน เพียงแต่ต้องจำกัดปริมาณให้เหมาะสม
คำแนะนำ:
- ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมต่อวัน
- เลือกทานโปรตีนจากสัตว์ที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำ ฟอสฟอรัสต่ำ โพแทสเซียมต่ำ เช่น อกไก่ ปลา ทูน่า ไข่ขาว
- ทานโปรตีนจากพืชเสริม เช่น ถั่ว เต้าหู้ ธัญพืช
- ทานผักและผลไม้ที่มีใยอาหารสูง เพื่อช่วยดูดซับฟอสฟอรัส
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยขับถ่ายของเสีย
สรุป:
- โปรตีนจากสัตว์ อาจ ส่งผลต่อการทำงานของไตในผู้ป่วย CKD
- ผู้ป่วย CKD ควรจำกัดปริมาณโปรตีน เลือกทานโปรตีนที่มีคุณภาพสูง และทานผักผลไม้ใยอาหารสูง
- ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นเพียงคำแนะนำทั่วไป โปรดปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับ individual case ของคุณ
การทานโปรตีนจากสัตว์ อาจ ส่งผลต่อการทำงานของไตในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง (CKD) ดังนี้:
1. เพิ่มภาระการทำงานของไต:
- โปรตีนจากสัตว์มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูง ซึ่งไตต้องทำงานหนักเพื่อกำจัดของเสียเหล่านี้ออกจากร่างกาย
- การรับประทานโปรตีนมากเกินไป อาจทำให้ไตทำงานหนัก เกิดภาวะไตทำงานเกิน และไตเสื่อมเร็วขึ้น
2. เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด:
- โปรตีนจากสัตว์บางชนิด มีไขมันอิ่มตัวและโซเดียมสูง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
อย่างไรก็ตาม:
- โปรตีนเป็นสารอาหารสำคัญต่อร่างกาย จำเป็นต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และสร้างภูมิคุ้มกัน
- ผู้ป่วย CKD ยังต้องการโปรตีน เพียงแต่ต้องจำกัดปริมาณให้เหมาะสม
คำแนะนำ:
- ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมต่อวัน
- เลือกทานโปรตีนจากสัตว์ที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำ ฟอสฟอรัสต่ำ โพแทสเซียมต่ำ เช่น อกไก่ ปลา ทูน่า ไข่ขาว
- ทานโปรตีนจากพืชเสริม เช่น ถั่ว เต้าหู้ ธัญพืช
- ทานผักและผลไม้ที่มีใยอาหารสูง เพื่อช่วยดูดซับฟอสฟอรัส
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยขับถ่ายของเสีย
สรุป:
- โปรตีนจากสัตว์ อาจ ส่งผลต่อการทำงานของไตในผู้ป่วย CKD
- ผู้ป่วย CKD ควรจำกัดปริมาณโปรตีน เลือกทานโปรตีนที่มีคุณภาพสูง และทานผักผลไม้ใยอาหารสูง
- ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นเพียงคำแนะนำทั่วไป โปรดปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับ individual case ของคุณ
เพิ่มเติม:
- การทานโปรตีนจากสัตว์ อาจ ช่วยชะลอไตเสื่อมได้ หาก เลือกทานโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ไขมันอิ่มตัวต่ำ ฟอสฟอรัสต่ำ โพแทสเซียมต่ำ
- ควรทานโปรตีนจากสัตว์ควบคู่กับโปรตีนจากพืช ผักผลไม้ใยอาหารสูง ดื่มน้ำให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับ individual case ของคุณ
พืชที่มีโปรตีนสูง
1. ถั่วเหลือง: ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชชั้นยอด เต้าหู้ 1 ถ้วย (126 กรัม) ให้โปรตีน 10 กรัม ถั่วเหลืองยังเป็นแหล่งโปรตีนที่สมบูรณ์ หมายความว่ามันมีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนที่ร่างกายต้องการ
2. ควินัว: ควินัวเป็นธัญพืชที่สมบูรณ์อีกชนิดหนึ่ง ซึ่งหมายความว่ามีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน ควินัวเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี (8 กรัมต่อถ้วย) ใยอาหาร และแร่ธาตุ
3. ถั่วลูกไก่: ถั่วลูกไก่เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี (15 กรัมต่อถ้วย) ใยอาหาร และวิตามินและแร่ธาตุ ถั่วลูกไก่สามารถใช้ทำอาหารต่างๆ ได้ เช่น แกง สลัด และฮัมมัส
4. ถั่วเลนทิล: ถั่วเลนทิลเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี (18 กรัมต่อถ้วย) ใยอาหาร และแร่ธาตุ ถั่วเลนทิลสามารถใช้ทำอาหารต่างๆ ได้ เช่น ซุป สตูว์ และสลัด
5. ถั่วลันเตา: ถั่วลันเตาเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี (8 กรัมต่อถ้วย) ใยอาหาร และวิตามินและแร่ธาตุ ถั่วลันเตาสามารถรับประทานได้ดิบ ต้ม นึ่ง หรือผัด
6. เมล็ดเจีย: เมล็ดเจียเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี (6 กรัมต่อออนซ์) ใยอาหาร กรดไขมันโอเมก้า-3 และแร่ธาตุ เมล็ดเจียสามารถโรยบนโยเกิร์ต ซีเรียล หรือสลัด
7. เมล็ดฟักทอง: เมล็ดฟักทองเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี (5 กรัมต่อออนซ์) ใยอาหาร แมกนีเซียม และสังกะสี เมล็ดฟักทองสามารถรับประทานได้ดิบ คั่ว หรือบดเป็นเนย
8. เมล็ดทานตะวัน: เมล็ดทานตะวันเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี (5 กรัมต่อออนซ์) ใยอาหาร วิตามินอี และซีลีเนียม เมล็ดทานตะวันสามารถรับประทานได้ดิบ คั่ว หรือบดเป็นเนย
9. ข้าวโอ๊ต: ข้าวโอ๊ตเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี (5 กรัมต่อถ้วย) ใยอาหาร และเบต้ากลูแคน ข้าวโอ๊ตเป็นอาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพ หรือสามารถใช้ทำขนมปัง มัฟฟิน และคุกกี้
10. บร็อคโคลี่: บร็อคโคลี่เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี (4 กรัมต่อถ้วย) ใยอาหาร วิตามินซี และเค บร็อคโคลี่สามารถรับประทานได้ดิบ นึ่ง หรือผัด
11. ผักโขม: ผักโขมเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี (4 กรัมต่อถ้วย) ใยอาหาร วิตามินเอ และเค ผักโขมสามารถรับประทานได้ดิบ นึ่ง หรือผัด
12. ปวยเล้ง: ปวยเล้งเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี (4 กรัมต่อถ้วย) ใยอาหาร วิตามินซี และเอ ปวยเล้งสามารถรับประทานได้ดิบ นึ่ง หรือผัด
13. ข้าวกล้อง: ข้าวกล้องเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี (3 กรัมต่อถ้วย) ใยอาหาร วิตามินบี และแมกนีเซียม ข้าวกล้องสามารถรับประทานเป็นเครื่องเคียงหรือใช้ทำสลัด
แหล่งข้อมูล:
- โรคไตเสื่อม
- อาการโรคไตเสื่อม
- การวินิจฉัยโรคไตเรื้อรัง
- การแบ่งระดับความรุนแรงของโรคไตเสื่อม
- การักษาไตเสื่อม
- การป้องกันไตเสื่อม
- การรับประทานอาหารเพื่อป้องกันไตเสื่อม
- การออกกำลังกายสำหรับไตเสื่อม