อาหารที่ไม่ควรรับประทาน

การอักเสบเป็นกลไกของร่างกายที่จะกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาสู่ร่างกายไม่ว่าจะเป็น สารเคมี หรือเชื้อโรค การอักเสบเกิดขึ้นเป็นช่วงสั้นสั้นจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ถ้าการอักเสบนั้นเป็นเรื้อรังก็อาจจะทำให้กระตุ้นเกิดโรคขึ้นมาเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ข้ออักเสบ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ดังนั้นในการต่อสู้กับการอักเสบจะเริ่มต้นที่ครัวโดยการลด ละ เลิกอาหารที่ทำให้เกิดการอักเสบ

อาหารขยะ

1น้ำตาล และน้ำตาล fructose corn syrup (HFCS)

น้ำตาล และน้ำตาล fructose corn syrup (HFCS) เป็นสารใช้ให้ความหวานกับเครื่องดื่มเป็นส่วนใหญ่ มีการศึกษาพบว่า น้ำตาลจะทำให้เกิดการอักเสบและนำไปสู่การเกิดโรค เฉลี่ยแล้วคนไทยรับประทานน้ำตาลวันละ25ช้อนชาขณะที่อเมริการับประทานวันละ7ช้อนชา องค์การอนามัยโลกแนะนำให้รับประทานวันละไม่เกิน 6 ช้อนชา ตัวอย่างอาหารที่มีแป้งหรือน้ำตาล

  • cookies, ลูกออม cereals
  • ขนมปัง
  • Crackers.
  • Granola bars.
  • น้ำลาดสลัด

ทำไมรับประทานน้ำตาลมากจึงเกิดการอักเสบ

เมื่อเรารับประทานน้ำตาล น้ำตาลจะเข้าสู่กระแสเลือดส่วนหนึ่งอินซูลินจะพาเข้าเซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงาน หากเรารับประทานมากไปส่วนที่เหลือจะสะสมในเซลล์ไขมัน และเมื่อมีปริมาณมากขึ้นจะทำให้เกิดน้ำหนักเกิน เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน ไขมันพอกตับ ตามมา

มีการทดลองให้น้ำตาลหรือน้ำตาลแก่สัตว์ทดลองสามารถทำให้เกิดมะเร็งเต้านมในสัตว์ทดลอง ลดฤทธิ์การต้านอักเสบของน้ำมันปลา ทำให้กรดยูริกเพิ่ม และเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน การดื่มน้ำตาล fructose corn syrup มากทำให้เกิดโรคอ้วน ภาวะดื้อต่ออินซูลิน โรคเบาหวาน ไขมันเกาะตับ มะเร็ง โรคไตเสื่อม มีการอักเสบของผนังหลอดเลือดทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ

เราจะลดอาหารแป้งและน้ำตาลได้อย่างไร

คนเราได้รับน้ำตาลจากอาหารสี่แหล่งใหญ่ๆ ได้แก่ เครื่องดื่ม ขนมหวาน และผลไม้ ดังนั้นให้รับประทานอย่างระมัดระวังอาหารดังกล่าว หากอาหารมีฉลากกำกับให้เลือดอาหารที่มีน้ำตาลน้อยกว่า 4 กรัมหากเป็นแบบอาหารบ้านๆก็ต้องลดพวกแป้งลง มีคำถามว่าน้ำตาลที่เราได้จากเครื่องดื่มจะต่างจากน้ำตาลที่เราได้จากผลไม้หรือไม่ คำตอบคือน้ำตาลที่เราได้จากเครื่องดื่มจะถูกดูดซึมโดยตรงทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงทันที ส่วนน้ำตาลในผลไม่จะค่อยๆดูดซึม ทำให้น้ำตาลในเลือดไม่สูงเหมือนเราดื่มเครื่องดื่ม

2ไขมันทรานส์Trans fats

ไขมันทรานส์เป็นไขมันที่ได้มากจากน้ำมันพืชผ่านขบวนการผลิตมีการเติม Hydrogen เพื่อให้รสชาด กลิ่นดีและทนต่อความร้อนได้ดี แต่ไขมันทรานส์จะทำให้ระดับไขมัน LDL วึ่งเป็นไขมันไม่ดีสูงขึ้น และขณะเดียวกันก็ทำให้ HDL ซึ่งเป็นไขมันที่ดีลดลงทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และเบาหวานชนิดที่สอง เพิ่มมากขึ้น

เราจะลดไขมันทรานส์ได้อย่างไร

ไขมันทรานส์พบได้ในอาหารหลายประเภทเช่น เนยเทียม margarines น้ำมันพืชที่ผ่านขบวนการผลิตและมักจะมีคำว่า partially hydrogenated oils อาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ ดังนั้นเวลาเราเลือกอาหารหากมีฉลากอาหารให้เลือกอาหารที่มีไขมันครานส์ต่ำ ไม่ใช้เนยเทียม อาหารที่มีไขมันทรานส์สูงได้แก่ French fries อาหารทอดซ้ำ , cakes and cookies

3เนื้อสีแดงและเนื้อสัตว์ที่ผ่านขบวนการผลิต

เนื้อสัตว์ที่ผ่านขบวนการผลิตจะมีสารที่เรียกว่า advanced glycation end products(AGEs) ซึ่งเกิดจากปรุงเนื้อสตว์ที่อุณหภูมิสูง สารตัวนี้จะทำให้เกิดการอักเสบซึ่งกระตุ้นทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยพบว่ามีความสัมพันธ์กับมะเร็งลำไส้มากที่สุด

ส่วนอาหารที่ผ่านขบวนการผลิตมีการประกาศจากองค์การอนามัยโลกว่าเป็นสารก่อมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวาร อาหารที่ผ่านขบวนการผลิตคือเนื้อสัตว์ที่มีการหมักด้วยเกลือ การดอง การรมควัน

ตัวอย่างเนื้อสัตว์สีแดง เนื้อวัว เนื้อแพะ เนื้อหมู แกะ

ตัวอย่างอาหารที่ผ่านขบวนการผลิต เช่นไส้กรอก แฮม กุนเชียง หมูยอ เบคอน เนื้อรมควัน

วิธีป้องกัน

ให้รับประทานเนื้ออื่นแทนเนื้อแดง เช่น ไก่ ปลา ส่วนเนื้อแดงให้เลือกสันนอก ตัดเอาไขมันออก และใช้การต้ม นึ่งหรืออบแทนการปิ้งย่าง หรือทอด

  • รับประทานมังสาวิรัตสัปดาห์ละ1-2วัน
  • รับประทานเนื้อสัตว์วันละมื้อ
  • ให้รับประทานเนื้อสัตว์เป็นกับข้าว
  • เลือกเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
  • ไม่รับประทานอาหารที่ผ่านขบวนการผลิต

4อาหารพวกแป้งที่ผ่านขบวนการผลิต Refined carbohydrates

แป้งเป็นอาหารที่สำคัญร่างกายเราใช้แป้งเป็นตัวให้พลังงาน อาหารจำพวกแป้งในธรรมชาติจะเป็นพวกแป้งเชิงซ้อนซึ่งมีทั้งวิตามิน ใยอาหารและมีโมเลกุลของ คาร์บอน ไนโตรเจน ไฮโดรเจน และออกซิเจนเียงต่อกันหลายโมเลกูล เมื่อเรารับประทานอาหารแป้งธรรมชาติน้ำตาลในเลือดจะสูงอย่างช้าๆ ซึ่งต่างกับเมื่อเรารับประทานน้ำตาลซึ่งจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงอย่างรวดเร็ว อาหารที่ผ่านขบวนการผลิตจะเป็นอาหารที่มีการสกัดเอาใยอาหาร วิตามินออก หรือทำให้มีความเข้มข้อนของแป้งมากขึ้น มีการศึกษาว่าการรับประทานอาหารแป้งที่ผ่านขบวนการผลิตจะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง โรคอ้วน โรคลำไส้อักเสบ น้ำตาลในเลือดสูง ตัวอย่างของอาหารแป้งที่ผ่านขบวนการผลิต

  • ขนมปังขาว
  • แครกเกอร์
  • French fries.
  • ธัญพืชที่ใส่น้ำตาล
  • ข้าวสวย
  • ก๊วยเตี๋ยว

5น้ำมันพืชไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน Polyunsaturated fat

น้ำมัพืชชนิดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนจะมีไขมันชนิด omega-6 จำนวนมาก ไขมันนี้จะทำให้เกิดการอักเสบ

ตัวอย่างน้ำมันพืชที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน

  • Canola oil.
  • น้ำมันข้าวโพด
  • Mayonnaise.
  • น้ำมันดอกคำฝอย
  • น้ำมันดอกทานตะวัน
  • น้ำมันถั่ว

แนวทางแก้ไข

  • ให้รับประทานอาหารที่มีไขมัน omega-3s ซึ่งพบมากในปลาแซลมอน วอลล์นัท flaxseed เชื่อว่าหากอัตราส่วนของ omega-6s:omega-3s น้อยจะลดการเกิดการอักเสบ
  • ลดการบริโภคไขมัน omega-6s
  • ใช้น้ำมันมะกอกแทนน้ำมันพืชอื่น
  • ลดปริมาณการใช้น้ำมัน

6การดื่มสุรามากเกินไป

การดื่มสุราปริมาณไม่มากมีรายงานว่ามีผลดีต่อสุขภาพ แต่การดื่มสุรามากเกินไปจะทำให้เกิดการอักเสบ ยิ่งดื่มมากยิ่งมีการอักเสบมาก ทำให้เกิดมีเชื้อแบคทีเรียเร็ดรอดเข้าไปในกระแสเลือด ทำให้เกิดการอักเสบไปหลายอวัยวะ แนวทางแก้ไขจะตั้งจำกัดการดื่มสุรไม่เกิน สอง หน่วยสุรา

 

เพิ่มเพื่อน