Ciprofloxcin ซิโพรฟอกซาซิน รักษาโรคติดเชื้อ
ยา ซิโพรฟอกซาซิน Ciprofloxcin เป็นยาปฏิชีวนะใช้รักษาทางเดินปัสสาวะอักเสบ ปอดอักเสบ ข้อควรระวังในการใช้ยาเพราะอาจจะทำให้เกิดเอ็นอักเสบ หัวใจเต้นผิดปกติ ข้อบ่งชี้ในการใช้ยาเพื่อรักษาโรคติดเชื้อทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัวและใช้ยาให้ถูกวิธี
สารบัญ
- ข้อควรระวังในการใช้ยา Ciprofloxcin
- ข้อบ่งชี้ในการใช้ยาซิโพรฟอกซาซิน Ciprofloxcin
- ขนาดและวิธีใช้ซิโพรฟอกซาซิน Ciprofloxcin
- การใช้ยา Ciprofloxcin สำหรับผู้ป่วยโรคไต
- วิธีใช้ยา Ciprofloxcin
- สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ
- ข้อควรระวังในการใช้ยา ciprofloxacin
ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ใช้ยาซิโพรฟอกซาซิน Ciprofloxcin
- ยานี้อาจจะเพิ่มความเสี่ยงของเอ็นอักเสบ หรือเอ็นขาด โดยเฉพาะผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี รับยา steroid ผู้ที่เปลี่ยนอวัยวะ
- ยานี้อาจจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงเพิ่มในผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
หากเกิดอาการดังต่อไปนี้ให้หยุดยาและปรึกษาแพทย์
- ลมพิษ บวมหรือชาบริเวณหน้า ลำคอ ลิ้น ริมฝีปาก ตา มือ เท้า ข้อเท้า หายใจหรือกลืนอาหารลำบาก
- หัวใจเต้นผิดปกติ หน้ามืด เป็นลม
- ไข้ ปวดกล้ามเนื้อ หรือ ข้อ ชัก มึนงง ประสาทหลอน ปวด ชา หรือ
- อ่อนแรงตามส่วนต่างๆของร่างกาย
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยาซิโพรฟอกซาซิน Ciprofloxcin
ยานี้เป็นยาปฏิชีวนะ ใช้ขจัดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อ
- ทางเดินปัสสาวะอักเสบ เช่นกรวยไตอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ต่อมลูกหมากอักเสบเรื้อรัง
- โรคทางเดินหายใจ เช่น ไซนัสอักเสบ ปอดบวม
- การติดเชื้อที่ผิวหนัง
- การติดเชื้อข้อและกระดูก
- การติดเชื้อในช่องท้องโดยต้องใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะอื่นๆ
- ท้องร่วงเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
- ไข้ Typhoid Fever
- หนองในแท้
ขนาดและวิธีใช้ซิโพรฟอกซาซิน Ciprofloxcin
โดยทั่วไปรับประทานวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็นติดต่อกัน 5-14 วัน อาจรับประทานขณะท้องว่างหรือพร้อมอาหารและดื่มน้ำตาม 1 แก้ว สำหรับโรคหนองในแท้รับประทานครั้งเดียว 500 มก. ยานี้มีขายในรูปยาเม็ด 250 และ 500 มก. ยาฉีดความแรง 100 มก./50 มล. 200 มก./100 มล. และ 400 มก./200 มล.
การติดเชื้อ | ความรุนแรง | ขนาดยา | ความถี่ | ระยะเวลา |
ทางเดินปัสสาวะอักเสบ | เฉียบพลันไม่มีโรคแทรกซ้อน | 250 mg | ทุก 12ชม | 3 days |
รุนแรงปานกลาง | 250 mg | ทุก 12ชม | 7 to 14 days | |
รุนแรงมาก/โรคแทรกซ้อน | 500 mg | ทุก 12ชม | 7 to 14 days | |
ต่อมลูกหมากอักเสบเรื้อรัง | รุนแรงปานกลาง | 500 mg | ทุก 12ชม | 28 days |
ทางเดินหายใจ | รุนแรงปานกลาง | 500 mg | ทุก 12ชม | 7 to 14 days |
รุนแรงมาก/โรคแทรกซ้อน | 750 mg | ทุก 12ชม | 7 to 14 days | |
ไซนัสอักเสบ | รุนแรงปานกลาง | 500 mg | ทุก 12ชม | 10 days |
โรคติดเชื้อผิวหนัง | รุนแรงปานกลาง | 500 mg | ทุก 12ชม | 7 to 14 days |
รุนแรงมาก/โรคแทรกซ้อน | 750 mg | ทุก 12ชม | 7 to 14 days | |
โรคข้อและกระดูก | รุนแรงปานกลาง | 500 mg | ทุก 12ชม | ≥ 4 to 6 weeks |
รุนแรงมาก/โรคแทรกซ้อน | 750 mg | ทุก 12ชม | ≥ 4 to 6 weeks | |
ติดเชื้อในช่องท้อง | โรคแทรกซ้อน | 500 mg | ทุก 12ชม | 7 to 14 days |
ท้องร่วงจากการติดเชื้อ | รุนแรงปานกลาง/Severe | 500 mg | ทุก 12ชม | 5 to 7 days |
Typhoid Fever | รุนแรงปานกลาง | 500 mg | ทุก 12ชม | 10 days |
หนองในแท้ | ไม่มีโรคแทรกซ้อน | 250 mg | ครั้งเดียว | ครั้งเดียว |
โรคกาลี | 500 mg | ทุก 12ชม | 60 days |
การเปลี่ยนยาจากยารับประทานเป็นยาฉีดหรือจากยาฉีดเป็นยารับประทาน
Cipro ชนิดรับประทาน | ชนิดให้ทางหลอดเลือด |
250 mg Tablet ทุก 12ชม | 200 mg I.V. ทุก 12ชม |
500 mg Tablet ทุก 12ชม | 400 mg I.V. ทุก 12ชม |
750 mg Tablet ทุก 12ชม | 400 mg I.V. q 8 h |
การใช้ยา Ciprofloxcin สำหรับผู้ป่วยโรคไต
- ผู้ที่มีอัตราการกรองของไตมากกว่า 50 มล/นาที ไม่ต้องลดยา
- อัตราการกรองของไต 30-50 ให้ขนาดยา 250-500 มกทุก 12 ชั่วโมง
- อัตราการกรองของไต 5-29 ให้ขยาดยา 250-500 มกทุก 18 ชั่วโมง
วิธีใช้ยา Ciprofloxcin
- ระหว่างที่ใช้ยา Ciprofloxacin ไม่ควรจะใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม non-steroidal anti-inflammatory painkillers (NSAIDs)
- รับประทานยานี้ตอนท้องว่าง โดยรับประทานก่อนอาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือหลังอาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมง วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
- ห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
- รับประทานยาติดต่อกันจนหมดช่วงการรักษา แม้จะรู้สึกดีขึ้นแล้วก็ตาม
- อาจเกิดอาการท้องเสียระหว่างหรือหลังจากการใช้ยานี้
- รับประทานยานี้แล้วอาจมีอาการเวียนศีรษะหรืออ่อนเพลีย ไม่ควรขับรถหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร
- ไม่ควรรับประทานพร้อมกับนม ยาลดกรด หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานยานี้อาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูง ดังนั้นจะต้องตรวจน้ำตาลถี่ขึ้น
- ยา Ciprofloxacin จะทำให้เกิดแพ้แสงแดดได้ง่ายดังนั้นไม่ควรจะอาบแดดหรืออยู่ในที่แสงแดดจ้าเป็นเวลานาน
- ควรดื่มน้ำมากๆในระหว่างวัน
- ระหว่างรับประทานยาอาจจะเกิดเชื้อราในปาก และช่องคลอด
- หลีกเลี่ยงการทำงานหรืออยู่ในที่มีแสงแดดส่องเป็นเวลานาน
สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ
- การแพ้ยา ciprofloxacin, ยากลุ่มควิโนโลนหรือฟลูออโรควิโนโลน เช่น ofloxacin, levofloxacin, moxifloxacin, nalidixic acid หรือ norfloxacin
- ยาอื่นๆทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง วิตามิน อาหารเสริม และยาสมุนไพร ที่ท่านใช้อยู่ในขณะนี้หรือกำลังจะใช้
- หากเป็นหรือเคยเป็นโรคเอ็นกล้ามเนื้ออักเสบ โรคข้ออักเสบ โรคหืด โรคกระเพาะ สมองเป็นอัมพาต ภาวะสมองเสื่อม ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ โรคลมชัก โรคหลอดเลือดสมอง โรคตับหรือโรคไต
- โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- การทำงานหรือมีกิจวัตรที่มีผลกระทบต่อเอ็นกล้ามเนื้อเป็นประจำ เช่น นักกรีฑา
- การตั้งครรภ์ การวางแผนในการตั้งครรภ์ หรือการให้นมบุตร
- การผ่าตัด รวมทั้งผ่าตัดฟัน
- การเอ็กซเรย์ หรือ เอ็กซเรย์สมอง
อาการอันไม่พึงประสงค์อื่นที่อาจเกิดระหว่างใช้ยา หากเป็นต่อเนื่อง หรือ รบกวนชีวิตประจำวัน ให้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ
- รู้สึกไม่สบาย อาหารไม่ย่อย ปวดท้อง แก้ไขโดยการรับประทานอาหารน้อยแต่บ่อย
- ท้องร่วง หากเป็นไม่มากให้ดื่มน้ำเกลือแร่ทดแทนให้เพียงพอ
- ปวดศีรษะ ให้รับประทานยาแก้ปวด
ข้อควรระวังในการใช้ยา ciprofloxacin
เอ็นอักเสบหรือเอ็นขาด Tendinitia and rupture tendon
ยา ciprofloxacin มักจะพบว่ามีการอักเสบหรือเอ็นขาดซึ่งพบมากที่ เอ็นร้อยหวาย เอ็นหัวไหล่ ข้อศอก เอ็นนิ้วหัวแม่มือ พบมากฬนผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี ใช้ยา steroid หรือมีการเปลี่ยนไตและตับ โดยมีปัจจัยกระตุ้นได้แก่ การใช้เอ็นส่วนนั้นมาก ไตวาย หากเกิดอาการบวมหรือเจ็บเอ็นดังกล่าวให้หยุดยา
กระตุ้นให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงมากขึ้น
ผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงเมื่อใช้ยานี้อาจจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นควรจะหลีกเลี่ยงยากลุ่มนี้
ความปลอดภัยในคนตั้งครรภ์
ยังไม่หลักฐานความปลอดภัยในการใช้กับคนตั้งครรภ์ ดังนั้นไม่ควรใช้ สำหรับสตรีมีครรภ์ ยานี้จัดอยู่ในประเภท C
การใช้ยานี้ร่วมกับยาขยายหลอดลม Theophyllin
มีรายงานว่าการใช้ยา ciprofloxacin ร่วมกับยาขยายหลอดลมแล้วทำให้เกิดอาการชัก หรือหัวใจหยุดเต้น ซึ่งยา ciprofloxacin อาจจะกระตุ้นทำให้เกิดอาการดังกล่าว
การใช้ยา ciprofloxacin กับระบบประสาท
ยากลุ่มนี้อาจจะทำให้เกิดอาการง่วงซึม สับสน มือสั่น หรือชักดังนั้นควรใช้ยาอย่างระมัดระวัง
การแพ้ยา
ยา ciprofloxacin อาจจะทำให้เกิดการแพ้ยาซึ่งมีการแสดงออกได้หลายรูปแบบได้แก่
- มีไข้ ผื่นตามผิวหนัง เกิด toxic epidermal necrolysis, Stevens-Johnson syndrome
- หลอดเลือดอักเสบ vasculitis ปวดกล้ามเนื้อ
- ปอดอักเสบ
- ไตอักเสบ
- ตับอักเสบ
ลำไส้อักเสบ
การใช้ยาปฏิชีวนะอาจจะทำให้เกิดลำไส้อักเสบที่เรียกว่า Pseudomembranous Colitis ซึ่งจะมีอาการถ่ายเหลว หรือถ่ายเป็นเลือด
สรุป
ยาปฏิชีวนะ Ciprofloxcin ซิโพรฟอกซาซิน ใช้รักษาการอักเสบระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบทางเดินหายใจ การใช้ยาจะต้องใช้ให้ถูกวิธี ควรจะแจ้งแพทย์ถึงโรคประจำตัวหรือประวัติแพ้ยา หรือเกิดอาการระหว่างใช้ยาต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ ยานี้ไม่ควรใช้ร่วมกับยาแก้ปวดข้อเพราะอาจจะทำให้เอ็นอักเสบ
ทบทวนวันที่ 15/1/2566
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว