เหมาะสำหรับพกพาไปที่ต่างๆ
ใช้ แก๊สเป็นตัวนำยาสู่ปอด
การพ่นยาที่ถูกต้อง ทำให้ยาไปถึงปอดได้ดีขึ้น เด็กอายุต่ำกว่า
10 ขวบควรใช้
MDI ร่วมกับ spacer ตัวอย่าง spacer
ในเมืองไทยเช่น AEROCHAMBER Neubuhalerวิธีการใช้
- ดึงฝาออกจากช่องพ่น Mouthpiece
- ให้แน่นใจว่า Mouthpiece มีความสะอาด อาจจะใช้ผ้าเช็ดก่อนพ่น หากพ่นเป็นครั้งแรก
หรือหยุดพ่นไปนานหลายเดือนให้พ่นทิ้งในอากาศ 1 ครั้ง
- เขย่ายา3-4ครั้ง
- ให้ยืนหรือนั่งเอนไปทางข้างหลังเล็กน้อย
- ให้หายใจออก
- การอมปากกระบอกทำได้สองวิธี
- ให้อมปากกระบอกไว้ระหว่างฟัน
ริมฝีปากอมปากกระบอกให้สนิท
- ถึงปากกระบอกหางจากปากประมาณ 2 นิ้วมือ
- เริ่มหายใจเข้าทางปากพร้อมกับกดยาเพื่อพ่นยา
และหายใจเข้าช้าๆจนหายใจสุด
- กลั้นหายใจเป็นเวลา10วินาที
- นำกระบอกยาออกจากปากค่อยหายใจออกช้าๆ
- ถ้าต้องใช้ยามากกว่า1 ครั้งให้เว้นระยะห่างจากครั้งแรกไม่น้อยกว่า30-60วินาที
ผู้ป่วยรายใดที่ต้องใช้ Spacer
- ผู้ป่วยที่พ่นยาผิดวิธีหลังจากได้รับการสอนแล้ว
- ผู้ป่วยมีเชื้อราในคอจากพ่นยา
stroid
- ผู้ป่วยหอบกลางคืนซึ่งต้องใช้ยาพ่นในขนาดสูง
- ผู้ป่วยหอบฉับพลันและมีอาการมาก
วิธีใช้ยาพ่น MDI ร่วมกับ Spacer
- เปิดฝาครอบกระบอกยา( cap)
- เขย่ายาแรงๆในแนวดิ่ง
- ต่อกระบอกยากับ
spacer โดยให้กระบอกยาอยู่ในแนวดิ่งเสมอ
- ใช้ริมฝีปากอมรอบหลอด
spacerหรือที่เรียกว่า mouthpiece หรือถ้าใช้ mask ต้องครอบ mask
ให้คลุมปากและจมูก
- กดยาเข้า spacer 1-4ครั้งตามความรุนแรง
- หายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ ธรรมดาไม่ต้องกลั้นหายใจจนแน่ใจว่ายาหมด
การทำความสะอาดกระบอก
- ถอดกระบอกออก
- นำส่วนประกอบล้างในน้ำอุ่น ซึ่งผสมสบู่
- ห้ามต้ม ห้ามใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ ห้ามใช้แอลกอฮอล์
- น้ำส่วนประกอบซึ่งล้างเสร็จ ล้างด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง
- นำชิ้นส่วนมาผึ่งให้แห้ง ไม่ต้องตากแดด
- นำชิ้นส่วนมาประกอบกัน
- ต้องระวังอย่าให้ผนังด้านในมีรอยขีดข่วน
- spacer ต้องแห้งสนิทก่อนใช้ทุกครั้ง
- ควรสำรวจปริมาณยาโดยการนำหลอดยาไปลอยในน้ำถ้าจมแสดงว่ายายังมีอยู่
กลับหน้ายาพ่น
กลับไปหน้าแรก
Corticosteroid | Cromolyn
sodium | Long-acting
beta2-agonists | Theophylline | Leukotriene | Short-acting
Beta2-agonists | Anticholinergics | systemic
corticosteroids
ต้องรู้เกี่ยวกับโรคหอบหืด | ต้องรู้จักวิธีพ่นยา | ต้องรู้จักชนิดของยาที่รักษา | ต้องมีแผนการรักษาด้วยตัวเอง | ต้องมีแผนฉุกเฉินในการรักเวลาหอบมาก | ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมที่แพ้ | ต้องรู้จักประเมินอาการของโรค | ต้องมีแผนเรื้อรัง