Erythrocyte sedimentation rate (ESR)
ESR คืออะไร?
ESR (Erythrocyte Sedimentation Rate) เป็นการตรวจเลือดเพื่อวัดอัตราการตกตะกอนของเม็ดเลือดแดงในหลอดทดลองภายใน 1 ชั่วโมง โดยวัดเป็นมิลลิเมตรต่อชั่วโมง (mm/hr) เชื่อว่าเมื่อมีการอักเสบจะมีการสร้าง fibrinogen ซึ่งจะทำให้เม็ดเลือดแดงเกาะติดกันทำให้ตกตะกอนได้เร็ว ค่า ESR เป็นการแสดงค่าไม่จำเพาะสำหรับสาเหตุการเกิดโรคและอวัยวะการอักเสบในร่างกายิ จึงใช้ ESR เป็นตัวบ่งชี้ภาวะอักเสบ เช่น การติดเชื้อ โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือมะเร็งบางชนิด
Erythrocyte sedimentation rate (ESR)ฌ)คืออัตราการตกตะกอนของเม็ดเลือดแดงใน 1 ชั่วโมง เป็นการตรวจที่บ่งบอกว่ามีการอักเสบ แต่ไม่ได้บอกสาเหตุของการอักเสบ การรายงานจะเป็น mm/h
การตรวจ ESR ในประเทศไทย
การตรวจ ESR สามารถทำได้ที่โรงพยาบาลและคลินิกทั่วไปในประเทศไทย เช่น รพ.สต., โรงพยาบาลรัฐ และโรงพยาบาลเอกชน ค่าใช้จ่ายโดยทั่วไปอยู่ที่ 100–300 บาท ขึ้นอยู่กับสถานที่
ความสำคัญของการตรวจ ESR
การตรวจ ESR ใช้เพื่อ:
- ตรวจหาการอักเสบ: ช่วยระบุว่ามีการอักเสบในร่างกายหรือไม่ เช่น จากการติดเชื้อหรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง
- วินิจฉัยโรค: ใช้ร่วมกับการตรวจอื่นๆ เพื่อวินิจฉัยโรค เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis) หรือ lupus
- ติดตามการรักษา: ใช้ติดตามการตอบสนองต่อการรักษาในโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบ เช่น โรคหลอดเลือดอักเสบ (vasculitis)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การอักเสบ.
วิธีเตรียมตัวก่อนตรวจ ESR
นพ.ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร แนะนำขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อให้ผลการตรวจแม่นยำ:
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้: เช่น ยาคุมกำเนิด, ยา NSAID (เช่น Naproxen), หรือสเตียรอยด์ เพราะอาจส่งผลต่อผลตรวจ
- หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง: อาหารไขมันสูงอาจรบกวนผลตรวจ ควรงดก่อนเจาะเลือด
- แจ้งสภาวะร่างกาย: เช่น การตั้งครรภ์หรือมีประจำเดือน ซึ่งอาจทำให้ ESR สูงขึ้นตามธรรมชาติ
ระดับ ESR ปกติ
ระดับ ESR ปกติ (หน่วย: mm/hr):
- ผู้ชาย: 0–20 mm/hr
- ผู้หญิง: 0–30 mm/hr (อาจสูงกว่าเล็กน้อยเนื่องจากฮอร์โมน)
- เด็ก: 0–10 mm/hr
- ผู้สูงอายุ: อาจสูงถึง 40 mm/hr ในผู้หญิง และ 30 mm/hr ในผู้ชาย
หมายเหตุ: ค่าปกติอาจแตกต่างกันตามห้องปฏิบัติการ อายุ และสภาวะอื่นๆ เช่น การตั้งครรภ์หรือการใช้ยาคุมกำเนิด
ตารางสรุประดับ ESR
กลุ่ม | ระดับปกติ (mm/hr) | ความหมายหากสูง |
---|---|---|
ผู้ชาย | 0–20 | อาจบ่งบอกถึงการอักเสบหรือโรค |
ผู้หญิง | 0–30 | อาจบ่งบอกถึงการอักเสบหรือโรค |
เด็ก | 0–10 | ควรปรึกษาแพทย์เพื่อแปลผล |
ผู้สูงอายุ | สูงถึง 30–40 | อาจสูงขึ้นตามอายุ ควรแปลผลร่วมกับอาการ |
ค่าปกติESR
ผู้ใหญ่
เด็ก

ค่า ESR เพิ่มขึ้นพบในภาวะ
ค่า ESR ที่มีค่าสูงมาก
ค่า ESR สูงสาเหตุจากการติดเชื้อ
ค่า ESR ลดลงพบในภาวะ
เมื่อไรแพทย์จึงจะส่งตรวจ
แพทย์จะสั่งให้ตรวจ ESR ในกรณีที่สงสัยว่าจะมีการอักเสบ inflammation ในร่างกายซึ่งมีโรคหลายโรคที่ใช้การตรวจนี้วินิจฉัยโรค ยกตัวอย่างโรค เช่น ข้ออักเสบ temporal arteritis เป็นต้น นอกจากนั้นแพทย์ยังใช้ค่า ESR ในการติดตามการรักษา
คำแนะนำ:
ESR เป็นการตรวจที่ไม่เฉพาะเจาะจง (non-specific) หากผลผิดปกติ แพทย์จะสั่งตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจ CRP (C-Reactive Protein) หรือการตรวจภาพถ่ายรังสี เพื่อหาสาเหตุการอักเสบที่แน่ชัด
การนำผล ESR ไปใช้ดูแลตัวเอง
ผล ESR สามารถช่วยให้คุณดูแลตัวเองได้ ดังนี้:
- หาก ESR สูง: ปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุ อาจต้องปรับพฤติกรรม เช่น ลดการอักเสบด้วยการรับประทานอาหารต้านการอักเสบ (เช่น ปลา ผักใบเขียว) และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป
- ติดตามสุขภาพ: หากคุณมีโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบ ควรตรวจ ESR เป็นระยะเพื่อติดตามการอักเสบและประเมินการรักษา
- ดูแลสุขภาพทั่วไป: ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และนอนหลับให้เพียงพอ เพื่อลดการอักเสบในร่างกาย