การตรวจร่างกาย
มักจะไม่พบความผิดปรกติ ที่สำคัญจะพบการกดจุดเจ็บทั่วๆไปของร่างกาย การตรวจเลือดมักจะให้ผลลบ
การวินิจฉัย
ใช้เกณฑ์ของ American colledge of Rheumatology ดังนี้
- มีอาการปวดทั่วร่างกายแบบเรื้อรังอย่างน้อย 3 เดือน
- พบจุดกดเจ็บมากกว่า 11 จุดจากการกด 18 จุดวิธีกดให้ใช้นิ้วหัวแม่มือกด กดจนเล็บซีด
การเจาะเลือดตรวจ
ยังไม่มีการตรวจที่ยืนยันว่าเป็นโรคf fibromyalgiaเลือดที่เจาะได้แก่
- Complete blood count
- Erythrocyte sedimentation rate
- Thyroid function tests
การรักษา
การรักษาแบ่งออกเป็นการรักษาด้วยยา และ การดูแลตัวเอง
การใช้ยารักษา
ยาจะลดอาการเจ็บปวด และทำให้การนอนหลับดีขึ้น ยาเหล่านี้ได้แก่
- ยาแก้ปวดได้แก่ paracetamol จะลดอาการปวดและข้อยึด Tramadolใช้เป็นยาแก้ปวด แพทย์อาจจะจ่ายยา NSAID เช่น ibuprofen naproxen sodium การใช้ยาอาจจะใช้ยาชนิดเดียวหรือใช้ร่วมกันก็ได้
- ยาต้านซึมเศร้า เช่นยา Duloxetine และ milnacipranจะลดอาการปวดและอาการอ่อนล้า ส่วน amitriptylineหรือ fluoxetineจะช่วยเรื่องการนอนหลับการให้ยาในกลุ่มต้านซึมเศร้า เช่น amitriptyllin 10mg ก่อนนอนและปรับยาทุก 1-2 สัปดาห์จนกระทั่งคุมอาการได้
- ยากันชักเช่น Gabapentin (Neurontin)สามารถลดอาการปวดลงได้ pregabalin เป็นยาที่ได้รับรองว่ารักษาโรคนี้ได้
เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะมีปัญหาด้านจิตใจ เป็นคนวิตกกังวลง่ายจึงต้องให้ความรู้ว่าไม่อันตราย ไม่ก่อให้เกิดความพิการและไม่ทำให้อายุสั้น เพียงแต่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายและเจ็บปวดทรมาน
การดูแลตัวเองสำหรับโรค Fibromyalgia syndrome
- การลดความเครียด อ่านเรื่องความเครียดที่นี่
- นอนหลับอย่างเพียงพอ อ่านเรื่องนอนไม่หลับ
- การออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะลดอาการเจ็บปวด เช่น การเดิน การว่ายน้ำ การขี่จักรยาน อ่านเรื่องการออกกำลังกาย
- จัดกิจวัตรประจำอย่าให้มากไปหรือน้อยไป
- ปรับพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดี เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ การงดบุหรี่ การดื่มสุรา
แพทย์ทางเลือก
- การฝังเข็มซึ่งจะปรับสมดุลของสารเคมีที่หลั่งจากปลายประสาท จากการศึกษาเชื่อว่าการฝังเข็มจะลดอาการเจ็บปวดลงได้
- การนวด จะทำให้กล้ามเนื้อไม่เกร็ง มีการผ่อนคลายของความเครียดซึ่งจะลดอาการปวด
- การโยคะและรำไทเก็ก เชื่อว่าจะลดอาการปวดเนื่องจากกล้ามเนื้อมีการผ่อนคลาย
อ่านเรื่องโรคปวดกล้ามเนื้อ fibromyalgia