หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน
ถั่วแดงเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ซึ่งมีทั้งโปรตีน ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพ นอกจากนั้นยังมีค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index หรือ GI) และภาระน้ำตาล (Glycemic Load หรือ GL) ที่มีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นการเข้าใจสารอาหารและคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับ GI และ GL ของถั่วแดงจะช่วยให้คุณสามารถนำไปปรับใช้ในแผนการบริโภคอาหารได้อย่างเหมาะสมและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น
สารอาหารในถั่วแดง: รวมทั้งปริมาณโปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลอรี และไขมัน
ถั่วแดงเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยมีโปรตีนและไฟเบอร์ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ ระบบย่อยอาหาร และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุและวิตามินหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ถั่วแดงยังประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต ไขมันในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงกรดไขมันที่สำคัญ เช่น โอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 ที่มีผลดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
โปรตีนในถั่วแดงมีปริมาณสูงถึง 8.7 กรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งถือเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ดี โปรตีนในถั่วแดงจะช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างเนื้อเยื่อในร่างกาย รวมถึงมีบทบาทในการสร้างกล้ามเนื้อและเซลล์ต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง
ถั่วแดงมีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 22.5 กรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (Complex Carbohydrates) ที่ร่างกายย่อยได้ช้า ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดค่อยๆ เพิ่มขึ้นและไม่ทำให้เกิดการพุ่งขึ้นของน้ำตาลในเลือดในทันที คาร์โบไฮเดรตจากถั่วแดงจึงเป็นแหล่งพลังงานที่ยั่งยืนและทำให้รู้สึกอิ่มนาน
ถั่วแดงเป็นแหล่งของไฟเบอร์ที่ดี ช่วยในการย่อยอาหารและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ไฟเบอร์ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดและช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้
ถั่วแดงมีพลังงานประมาณ 127 แคลอรีต่อ 100 กรัม ซึ่งถือว่าไม่สูงมาก ทำให้เป็นแหล่งอาหารที่เหมาะสำหรับการควบคุมน้ำหนักหรือการรักษาสมดุลแคลอรีในร่างกาย
ถั่วแดงมีไขมันเพียง 0.8 กรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งเป็นไขมันในปริมาณต่ำ โดยไขมันส่วนใหญ่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated Fat) ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและส่งเสริมการทำงานของหัวใจ
ถั่วแดงมีไขมันอิ่มตัวเพียง 0.1 กรัม ซึ่งน้อยมาก ทำให้ถั่วแดงเป็นแหล่งอาหารที่ดีสำหรับการควบคุมระดับไขมันในเลือด
ถั่วแดงมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 0.2 กรัม ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
ถั่วแดงมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 0.3 กรัม ซึ่งประกอบไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ เช่น โอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 ที่ดีต่อสุขภาพ
7. แร่ธาตุ (Minerals)
8.วิตามิน (Vitamins)
ถั่วแดงเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย เช่น โปรตีน ไฟเบอร์ และไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งมีประโยชน์ในการส่งเสริมสุขภาพหัวใจ ระบบย่อยอาหาร และการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ถั่วแดงยังมีโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 ซึ่งมีบทบาทในการลดการอักเสบและการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ถั่วแดงเป็นทางเลือกที่ดีในการเสริมอาหารในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในเลือด และดูแลสุขภาพหัวใจ ดังนั้นการเพิ่มถั่วแดงในมื้ออาหารของคุณจะช่วยให้คุณได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย.
สารอาหาร | ปริมาณ |
---|---|
พลังงาน (Calories) | 127 kcal |
โปรตีน (Protein) | 8.7 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrates) | 22.5 กรัม |
ไฟเบอร์ (Fiber) | 7.4 กรัม |
ไขมัน (Fat) | 0.8 กรัม |
ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat) | 0.1 กรัม |
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fat) | 0.2 กรัม |
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated Fat) | 0.3 กรัม |
โอเมก้า-3 (Omega-3) | 0.02 กรัม |
โอเมก้า-6 (Omega-6) | 0.28 กรัม |
สารอาหารในถั่วแดง: รวมทั้งเกลือแร่ที่สำคัญ
ถั่วแดงไม่เพียงแต่เป็นแหล่งของโปรตีน ไฟเบอร์ และกรดไขมันที่ดีต่อสุขภาพ แต่ยังอุดมไปด้วยเกลือแร่หลายชนิดที่สำคัญ ซึ่งช่วยเสริมสร้างการทำงานของร่างกายในหลายๆ ด้าน เช่น การทำงานของระบบประสาท การเจริญเติบโตของกระดูก และการควบคุมความดันโลหิต ต่อไปนี้คือเกลือแร่สำคัญในถั่วแดงที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ:
เกลือแร่ | ปริมาณ |
---|---|
โพแทสเซียม (Potassium) | 1,265 มิลลิกรัม |
แมกนีเซียม (Magnesium) | 45 มิลลิกรัม |
เหล็ก (Iron) | 2.6 มิลลิกรัม |
ฟอสฟอรัส (Phosphorus) | 140 มิลลิกรัม |
สังกะสี (Zinc) | 1.2 มิลลิกรัม |
แมงกานีส (Manganese) | 0.6 มิลลิกรัม |
ทองแดง (Copper) | 0.2 มิลลิกรัม |
โฟเลต (Folate) | 130 ไมโครกรัม |
แคลเซียม (Calcium) | 30 มิลลิกรัม |
โพแทสเซียมในถั่วแดงมีปริมาณสูงถึง 1,265 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่สำคัญสำหรับการควบคุมความดันโลหิตและการทำงานของหัวใจ โพแทสเซียมช่วยในการรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกายและช่วยให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ
แมกนีเซียมในถั่วแดงมีปริมาณ 45 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยในการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท แมกนีเซียมยังช่วยในการสร้างกระดูกและฟัน รวมถึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต
ถั่วแดงมีเหล็กประมาณ 2.6 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งเป็นแหล่งเหล็กจากพืชที่สำคัญ เหล็กมีบทบาทสำคัญในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงและการขนส่งออกซิเจนในร่างกาย การทานถั่วแดงจะช่วยป้องกันอาการขาดธาตุเหล็ก ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้าและอ่อนแอ
ฟอสฟอรัสในถั่วแดงมีปริมาณ 140 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ฟอสฟอรัสช่วยในการสร้างกระดูกและฟัน รวมถึงมีบทบาทในการสร้างพลังงานในเซลล์และการทำงานของกล้ามเนื้อ
ถั่วแดงมีสังกะสีประมาณ 1.2 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน การเจริญเติบโต และการซ่อมแซมเซลล์ นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการรักษาสุขภาพผิวและการรักษาบาดแผล
แมงกานีสในถั่วแดงมีปริมาณ 0.6 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งมีบทบาทในการสร้างกระดูก และช่วยในการเผาผลาญอาหาร รวมถึงการผลิตพลังงานในเซลล์
ถั่วแดงมีทองแดง 0.2 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ทองแดงช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและมีบทบาทในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังช่วยในกระบวนการดูดซึมและการใช้ธาตุเหล็กในร่างกาย
ถั่วแดงเป็นแหล่งโฟเลตที่ดี โดยมีปริมาณ 130 ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม โฟเลตช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์และการสร้าง DNA และเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับสตรีที่กำลังตั้งครรภ์เพื่อป้องกันการเกิดความผิดปกติในทารก
ถั่วแดงมีแคลเซียมประมาณ 30 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม แคลเซียมมีบทบาทในการเสริมสร้างกระดูกและฟัน และช่วยในการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท
ถั่วแดงไม่เพียงแต่เป็นแหล่งของโปรตีนและไฟเบอร์ที่ดีต่อสุขภาพ แต่ยังอุดมไปด้วยเกลือแร่ที่สำคัญหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส สังกะสี และโฟเลต ซึ่งล้วนแล้วแต่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพ โดยเฉพาะในการช่วยควบคุมความดันโลหิต สนับสนุนการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เสริมสร้างกระดูกและฟัน และบำรุงระบบภูมิคุ้มกัน
การเพิ่มถั่วแดงในมื้ออาหารของคุณเป็นวิธีที่ดีในการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนและมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะในแง่ของการเสริมสร้างสุขภาพโดยรวมและการป้องกันโรคต่างๆ
Glycemic Index (GI) คือ ค่าดัชนีน้ำตาลที่บ่งบอกถึงอัตราการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากทานอาหาร โดยอ้างอิงจากการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดเมื่อทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต เปรียบเทียบกับการทานน้ำตาลกลูโคส (ที่มีค่า GI = 100)
ถั่วแดงมีค่า GI ที่ต่ำมาก โดยมีค่า GI อยู่ที่ประมาณ 29 ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่มี GI ต่ำ (ต่ำกว่า 55) ซึ่งหมายความว่าเมื่อทานถั่วแดง ระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และค่อยๆ ควบคุมได้ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน
Glycemic Load (GL) เป็นการวัดผลของค่า GI ร่วมกับปริมาณคาร์โบไฮเดรตในอาหาร โดยใช้สูตร:
GL = (GI × ปริมาณคาร์โบไฮเดรตในอาหาร ÷ 100)
ถั่วแดงมี GL ที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งหมายความว่าถั่วแดงไม่เพียงแต่มี GI ต่ำ แต่ยังมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับอาหารอื่นๆ เช่น ข้าวหรือมันฝรั่ง ที่มี GL สูง ถั่วแดงจึงเหมาะสำหรับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยป้องกันการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
ตัวอย่างค่า GL ของถั่วแดง:
ถั่วแดงเป็นแหล่งอาหารที่เต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย เช่น โปรตีน ไฟเบอร์ แร่ธาตุ และวิตามินต่างๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากมีค่า GI และ GL ที่ต่ำ การทานถั่วแดงเป็นประจำจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวานและโรคหัวใจ และยังช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานและมีพลังตลอดวัน
การเพิ่มถั่วแดงในมื้ออาหารจึงเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถั่วแดง | การเพิ่มถั่วแดงในอาหาร | ถั่วแดงกับโรคเบาหวาน | ถั่วแดงและระบบทางเดินอาหาร | ถั่วแดงป้องกันโรคหัวใจ | ถั่วแดงเสริมภูมิคุ้มกัน | คุณค่าทางโภชนาการของถั่วแดง | คำเตือนเมื่อใช้ถั่วแดง | ข้าวถั่วแดง | ข้าวต้มถั่วแดง | โจ๊กถั่วแดง | ซุปถั่วแดง | ซุปซี่โครงหมู่ถั่วแดง | ต้มถั่วแดง
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว