ภาวะคีโตซีส [Diabetic acidosis, DKA]
คืออะไรเป็นภาวะฉุกเฉินที่พบบ่อย โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่หนึ่ง ภาวะนี้เกิดจากการเสียสมดุลของอินซูลิน ซึ่งอาจจะขาดหรือน้อยไป กับฮอร์โมนต้านฤทธิ์อินซูลิน เช่น glucagon steroid และ catecholamine สูงขึ้นทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะระดับน้ำตาลสูง และภาวะกรดในเลือด และมีการคั่งของคีโตนในเลือด คีโตนนี้เป็นกรดจะตรวจพบในปัสสาวะหากว่าอินซูลินไม่พอ และเบาหวานควบคุมไม่ดี
ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดมีอะไรบ้าง
ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภาวะนี้ได้แก่โรคหรือภาวะความเครียดที่เกิดขึ้น เช่น
- โรคหลอดเลือดสมอง
- ตับอ่อนอักเสบ
- เส้นเลือดหัวใจตีบ
- สุรา
- ยาบางชนิดเช่น corticosteroids, thiazides, and sympathomimetic agents
ผู้ป่วยจะมีอาการอะไรบ้าง
- คลื่นไส้ อาเจียนมาก พบเกือบทุกราย
- ปวดท้องในบางราย
- คอแห้ง
- กระหายน้ำ
- ปัสสาวะมากบางรายอาจจะมากถึง 5 ลิตร
- ลมหายใจมีกลิ่นหวานของอะซีโตน และคีโตน
- หายใจหอบลึก
- ตรวจพบคีโตนในปัสสาวะ
หากยังไม่ได้รับการรักษาจะเกิดอาการต่อมา
- รู้สึกเหนื่อยมากขึ้น
- ผิวแดง และแห้ง
- คลื่นไส้อาเจียน และปวดท้องมากขึ้น
- หายใจหอบ และลึก มีกลิ่นผลไม้
- ซึมลง
ทราบได้อย่างไรว่าเกิดภาวะนี้
จากอาการดังกล่าวร่วมกับการตรวจดังนี้
- ระดับน้ำตาลในปัสสาวะสูงบวก4 หากน้ำตาลในเลือดสูงให้ตรวจหาคีโตนในปัสสาวะ
- ระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่า 240 มก.%
- ตรวจพบคีโตนในปัสสาวะ
ปัจจัยชักนำให้เกิด
- การขาดยาอินซูลิน
- ความเครียดต่างๆ เช่น ภาวะติดเชื้อ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน
การรักษา
หลักการรักษาคือขจัดสิ่งทีชักจูง และชดเชยสิ่งที่ขาด ได้แก่
- การให้อินซูลินออกฤทธิ์ระยะสั้นเพิ่มขึ้นจากเดิม 5-10 ยูนิต ถ้าอีก 4 ชั่วโมงต่อมายังตรวจพบคีโตนอีกให้ฉีดซ้ำได้อีก
- การให้ดื่มน้ำมากๆ
- การให้เกลือแร่
- การให้ด่างเมื่อมีความจำเป็น
- การรักษาหรือขจัดสิ่งชักจูง
การป้องกัน
ภาวะนี้สามารถป้องกันได้โดยให้ความรู้ ผู้ป่วยควรได้รับคำแนะนำว่าเมื่อมีอาการปัสสาวะมากขึ้น คอแห้งกระหายน้ำจะต้องตรวจหาน้ำตาลในเลือดหรือปัสสาวะทันที ถ้าน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 300 มก./ดล หรือน้ำตาลในปัสสาวะ 3+ จะต้องทดสอบหาคีโตนในปัสสาวะทันที ถ้าตรวจพบคีโตนแล้วยังไม่เกิดอาการอื่นโดยเฉพาะคลื่นไส้อาเจียน ให้ดื่มน้ำมากๆ และเพิ่มยาฉีดชนิดออกฤทธิ์เร็ว 6-12 ยูนิตแล้วสังเกตุ 4-6 ชมโดยการตรวจน้ำตาล ถ้าเกิน 240 มก.%ให้ตรวจหาคีโตนถ้าไม่ดีขึ้นรีบพบแพทย์ ข้อสำคัญถ้าน้ำตาลในเลือดมากกว่า 240 มก.% และตรวจพบคีโตนในปัสสาวะห้ามออกกำลังกาย
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ทั้งการควบคุมอาหาร การฉีดอินซูลิน และการออกกำลังกาย
- ไม่ควรออกกำลังกายหากน้ำตาลในเลือดสูงเกิน 240 มก.%
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่1 ตรวจหาสารคีโตนในเลือดเมื่อน้ำตาลในปัสสาวะ4บวก
- ห้ามหยุดอินซูลินเมื่อเวลาป่วย
ควรพบแพทย์เมื่อใด
- อาเจียนมาก อาเจียนตลอดเวลา
- ไข้สูงเกิน 39 องศา
- ระดับน้ำตาลเกิน 400 มก%นานเกิน 12 ชั่วโมง
- ฉีดอินซูลินเพิ่มขึ้น 20%มากกว่า 2 ครั้งใน 24 ชั่วโมง แต่อาการและผลเลือดยังไม่ดีขึ้น
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะคีโตซีส
คีโตนเกิดจากการเผาผลาญไขมันเนื่องมาจากร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลกลูโคสเป็นพลังงาน การพบคีโตนในเลือดแดงแสดงถึง
- อินซูลินไม่พอ อาจจะเกิดจากลืมฉีด หรือภาวะที่ต้องการอินซูลินเพิ่ม เช่นเวลาเจ็บป่วย เมื่ออินซูลินไม่พอร่างกายจึงเผาไขมันเป็นพลังงาน
- ได้อาหารไม่พอ เช่นเวลาเจ็บป่วยรับประทานอาหารไม่พอ
- ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป ร่างกายก็เผาไขมันมาใช้เป็นพลังงาน
ภาวะคีโตซีส | ภาวะหมดสติจากน้ำตาลสูง | ภาวะน้ำตาลต่ำ
ภาวะฉุกเฉินในผู้ป่วยเบาหวาน |
โรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน
โรคแทรกซ้อน | ภาวะฉุกเฉิน | โรคหัวใจ | โรคความดันโลหิตสูง| โรคไต | โรคตา | โรคปลายประสาทอักเสบ | โรคเบาหวานกับเท้า