การรักษาโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ
ยาปฏิชีวนะเป็นยาหลักที่รักษาโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ
นอกจากยาปฏิชีวนะแล้วยังต้องใช้ยาบรรเทาอาการเช่น
ยาแก้ปวด
ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน
ยาลดอาการปวดแสบเวลาปัสสาวะ
ยาปฏิชีวนะ
- Co-trimoxazole ซึ่งประกอบด้วยยา
trimethoprim 80 mg ,sulfamethoxazole 400 mg
สามารถรักษาทางเดินปัสสาวะอักเสบจากเชื้อต่างๆได้ยกเว้นเชื้อ
pseudomonase ขนาดทีใช้คือ 2
เม็ดวันละ 2 ครั้ง
ถ้าเป็นทางเดินกระเพาะปัสสาวะอักเสบที่ไม่มีโรคแทรกซ้อนใช้เวลารักษา
3
วันแต่ถ้าเป็นกรวยไตอักเสบใช้เวลารักษา
10-14 วัน
ข้อห้ามใช้คือผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้ยา sulfa
ข้อควรระวังไม่ควรใช้ยาตัวนี้ร่วมกับยา
warfarin, dapsone ,diuretics ,phenytoin , methotrexate, sulfonylureas,
zidovudineซึ่งจะทำให้เกิดผลข้างเคียงจากยา
ควรหยุดยาเมื่อ มีผื่น ซีด
น้ำตาลในเลือดต่ำ
- Ciprofloxacin รักษาเชื้อได้หลายชนิดโดยเฉพาะ
pseudomonase ขนาดที่ใช้ 200-500 mg วันละ 2
ครั้ง
กระเพาะปัสสาวะใช้เวลารักษา
3 วัน กรวยไตอักเสบใช้เวลา 10-14
วันการกินยาโรคกระเพาะอาหาร
ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี
จะลดการดูดซึมของยาทำให้รักษาไม่ได้ผล
เมื่อใช้ร่วมกับยา theophyllin,digoxin
จะทำให้ยาสองตัวออกฤทธิ์เพิ่มมากขึ้น
- Cephalexin ใช้ขนาด 250-1000มิลิกรัมวันละ
4 ครั้ง
ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่แพ้ยา
cephalosporin
- Co-amoxiclav ขนาดที่ใช้ 625
มิลิกรัมวันละ 2 ครั้งหรือ 375
มิลิกรัม วันละ 3
ครั้งห้ามใช้ในคนที่แพ้ยา
- Nitrofurantoin (Macrodantin, Furadantin, Macrobid)ขนาดที่ใช้
50-100 มิลิกรัมวันละ 4
ครั้งห้ามใช้ในคนที่ไตวาย
หรือแพ้ยา
- ยาฉีดที่นิยมใช้ได้แก่
Aminoglycoside และ ceftriazone
ยาที่รักษาอาการ
Phenazopyridine เป็นยาลดอาการปวดแสบ
อาการปัสสาวะบ่อยขนาดที่ใช้
200 มิลิกรัมวันละ 3 ครั้ง
ไม่เกิน 2 วัน
ผู้ป่วยที่ต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล
ผู้ป่วยทางเดินปัสสาวะอักเสบที่แข็งแรง และไม่มีโรคแทรกซ้อนไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลผู้ป่วยต่อไปนี้ควรที่จะรับไว้ในโรงพยาบาลได้แก่
- ผู้ป่วยที่มีโครงสร้างผิดปกติเช่น
นิ่วในไต
ผู้ป่วยที่คาสายสวนปัสสาวะ
หรือท่อปัสสาวะตีบ
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเช่น
โรคเบาหวาน โรคไตวาย
- ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันไม่ดี
เช่น โรคมะเร็ง เอดส์
ผู้ป่วยที่ได้ยากดภูมิ
- ผู้ป่วยที่สัญญาณชีพไม่คงที่
- ผู้ป่วยที่ปวดมาก
- ผู้ป่วยที่มีสภาพขาดน้ำอย่างมาก
- ผู้ป่วยที่ไม่มีคนดูแล