การดูแลผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
การดูแลผู้ป่วยที่บ้านและขณะนำส่ง
เนื่องจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันชนิด STEMI เป็นโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตสูง การรักษาจะให้ได้ผลดีจะต้องรักษาภายใน 3 ชั่วโมงหลังจากเกิดอาการของโรค ดังนั้นผู้ป่วยและญาติจะต้องรู้จักโรคนี้ และเตรียมการส่งผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที
- ผู้ป่วยและญาติจะต้องเรียนรู้ถึงอาการของโรค STEMI ว่ามีความแตกต่างอาการที่เจ็บหน้าอกอย่างไร หากอาการผิดไปจากเดิมจะต้องรีบไปโรงพยาบาลโดยการโทรเบอร์ 1669
- ผู้ป่วยควรจะมีประวัติการรักษา ชนิดของยาที่รับประทาน ผลเลือดที่ผ่านมาไปพร้อมกับตัวผู้ป่วย
- ประวัติการรับประทานยาชนิดอื่น
- ต้องมีเบอร์โทรฉุกเฉินสำหรับติดต่อโรงพยาบาลที่จะไปรักษา รวมทั้งเบอร์โทรของศูนย์กู้ชีพ
- รถพยาบาลฉุกเฉินควรจะมีบุคคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี
ภายในรถควรจะมีเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และสามารถส่งผลการตรวจให้แพทย์ประเมิน
การประเมินผู้ป่วยที่ห้องฉุกเฉิน
เป้าหมายของการรักษาคือประเมินว่าผู้ป่วยเป็นโรค STEMI หรือไม่โโยการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจหากพบว่า
- มีการยกขึ้นของ ST-segment มากกว่า 2 mmในการตรวจที่หน้าอกอย่างน้อย 2 2ตำแหน่ง และมีการยกของ ST-segmentอย่างน้อย 1 mmในการตรวจคลื่นไฟฟ้าของแขนขา 2 ตำแหน่งติดกันหรือ
- กระแสไฟฟ้ามีการกั้นของ left bundle branch block ที่เพิ่งจะเกิด
ในรายที่มีเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่งจะต้องส่งผู้ป่วยไปรักษาโดยการเปิดหลอดเลือดที่อุดตันซึ่งมีวิธีการต่อไปนี้
- สำหรับโรงพยาบาลที่สามารถใส่สายสวนสีและทำบอลลูนได้ให้ทำภายใน 90 นาทีนับแต่เกิดอาการ
- สำหรับโรงพยาบาลที่ทำการใส่สายสวนไม่ได้ หากสามารถส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลที่ทำได้ภายใน 90 นาทีก็ให้ส่ง
- สำหรับโรงพยาบาลที่ทำการใส่สายสวนไม่ได้ และใช้เวลาเกิน 90 นาทีในการส่งก็ให้ยาละลายลิ่มเลือดภายใน 30 นาทีนับตั้งแต่มาถึงโรงพยาบาล
เป้าหมายของการรักษาที่ห้องฉุกเฉิน
- ควบคุมอาการเจ็บหน้าอก
- ประเมินผู้ป่วยเพื่อส่งผู้ป่วยไปรักษา
- ส่งผู้ป่วยที่ความเสี่ยงต่ำขึ้นตึกผู้ป่วยสามัญ
- ก่อนให้ผู้ป่วยกลับต้องประเมินให้ดี
การรักษาที่ห้องฉุกเฉิน
- Aspirin
- ให้ออกซิเจนในรายที่ออกซิเจนในเลือดต่ำ
- ให้ยาระงับอาการปวด
- เตรียมผู้ป่วยสำหรับการเปิดหลอดเลือด
การรักษาเริ่มต้น การรักษาในโรงพยาบาล
ทบทวนวันที่
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว