หน้าหลัก | สุขภาพดี | สุภาพสตรี | การแปลผลเลือด | โรคต่างๆ | วัคซีน
เนยเทียมทำมาจากน้ำมันพืชซึ่งเป็นของเหลวผ่านขบวนการผลิตจนเป็นจนเป็นของแข็ง ในขบวนการผลิตทำให้คุณค่าของสารอาหารบางชนิดสูญหายไปและเกิดสารหรือไขมันที่ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพเช่นไขมันทรานส์ นอกจากนั้นการนำเนยเทียมมาปรุงอาหารด้วยความร้อน ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนจะสลายเป็นสารที่ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ
มาร์การีน (margarine) หรืออาจเรียกว่า เนยเทียม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากน้ำมันพืช (vegetable oil) ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือ ไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) ซึ่งมีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวสูง และมีสถานะเป็นของเหลว หรือกึ่งเหลวที่อุณหภูมิห้อง นำมาผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน ทำให้มีกรดไขมันชนิดอิ่มตัวมากขึ้น และเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นของเหลวกึ่งแข็ง ที่สามารถปาดได้ มาร์การีนจัดเป็นอิมัลชัน (emulsion) มีเนื้อสัมผัส คล้ายเนย มีการเติมเกลือ สีผสมอาหาร วิตามิน เพื่อให้มีคุณภาพทางประสาทสัมผัสและคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงกับเนย (butter) ซึ่งผลิตจากไขมันนม หากเป็นมาร์การีนที่ผ่านกระบวนการไฮโดรจีเนชันจะมีกรดไขมันทรานส์ปนอยู่ด้วย ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการไฮโดรจีเนชัน ดังนั้นการบริโภคผลิตภัณฑ์ขนมอบที่ใช้มาร์การีนเป็นส่วนผสม ร่างกายจะได้รับกรดไขมันชนิดแทรนส์ จึงไม่ควรบริโภคผลิตภัณฑ์เบเกอรี่มากเกินไป
วัตถุดิบหลักมากกว่า ร้อยละ 90 เป็นน้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันปาล์ม น้ำมันปาล์ม โอเลอิน (palm olein) น้ำมันปาล์มสเตียริน น้ำมันมะพร้าว ส่วนผสมอื่น คือ เกลือไอโอดีน แต่งกลิ่นเลียนธรรมชาติ เจือสีธรรมชาติ มีส่วนผสมของอิมัลซิไฟเออร์ (emulsifier) เช่น เลซิทิน (lecithin) จากถั่วเหลือง
มาร์การีน เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ (bakery) โดยใช้ทดแทน เนย (butter) ในสูตร เช่น
มาร์การีน หรือเนยเทียม นั้นก็สามารถใช้แทนเนยได้ มาร์การีนคือ ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากน้ำมันพืช เช่น น้ำมันคาโนลา น้ำมันผลปาล์ม และน้ำมันถั่วเหลือง แม้ว่าเนย และมาร์การีนจะมีส่วนประกอบต่างกัน โดยเนยจะประกอบด้วยไขมันอิ่มตัว ส่วนเนยเทียมจะมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน การบริโภคไขมันส่วนเกินสามารถเพิ่มน้ำหนักตัว และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วน และโรคอ้วนก็เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่พบบ่อยที่สุดทั่วโลก การเลือกรับประทานอาหารที่ดีที่สุดเป็นวิธีหนึ่งในการรักษาสุขภาพของหัวใจ และหลอดเลือด การตัดสินใจว่าจะเลือกเนย หรือมาร์การีนขึ้นอยู่กับความต้องการอาหารเฉพาะของแต่ละบุคคล
เมื่อทางการแพทย์ตัดสินใจว่าเนยไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเนื่องจากมีไขมันอิ่มตัว นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหารจึงพยายามสร้างมาร์การีนจากน้ำมันพืช ซึ่งถือว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่า กระบวนการทำมาร์การีนถูกเรียกว่า ไฮโดรจิเนชัน กระบวนการนี้จะเปลี่ยนน้ำมันพืชเหลวให้กลายเป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้อง อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยพบว่าไขมันทรานส์ ซึ่งมีมาร์การีนอยู่นั้น ช่วยเพิ่มไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDL) หรือระดับคอเลสเตอรอลที่ “ไม่ดี” และลดระดับของไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นสูง (HDL) หรือคอเลสเตอรอลที่ “ดี”เหตุนี้เอง มาร์การีนจึงได้ถูกพูดถึงในแง่มุมของการเป็นอาหารที่ทำลายสุขภาพมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) ตัดสินในปี 2558 ได้กำหนดให้ผู้ผลิตควรเลิกใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในช่วง 5 ปีข้างหน้า และผู้ผลิตส่วนใหญ่ก็ได้กำจัดไขมันทรานส์ออกจากอาหารเป็นส่วนใหญ่แล้ว
มาร์การีนนั้นมีส่วนผสมหลากหลาย แต่เหล่าผู้ผลิตจะเพิ่มเกลือและสารประกอบอื่นๆ ลงในมาร์การีนเพื่อให้รสชาติและเนื้อสัมผัสน่ารับประทานสำหรับผู้บริโภคมากขึ้น เหล่านี้รวมถึงมอลโทเดกซ์ทริน เลซิตินจากถั่วเหลือง และโมโน หรือไดกลีเซอไรด์ พวกเขายังอาจใช้น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ และน้ำมันปลาในกระบวนการผลิต ผู้ผลิตมาร์การีนบางรายอาจเพิ่มวิตามินเอและเกลือ อย่างไรก็ตาม มาร์การีนหลายประเภทนั้นปราศจากรสชาติเทียมและสารกันบูด มาร์การีนบางชนิดใช้สำหรับทาเท่านั้น หากต้องใช้อบหรือทำอาหารประเภทอื่นๆ ควรหาชนิดที่ใช้สำหรับทำอาหารได้แทน ผู้ที่แพ้ถั่วเหลือง ผลิตภัณฑ์จากนม หรืออาการแพ้ง่ายอื่นๆ จำเป็นต้องอ่านฉลากและเปรียบเทียบแบรนด์ต่างๆ เพื่อหามาร์การีนที่เหมาะสมกับความต้องการและความชอบของตนมากที่สุด
อุณหภูมิเกิดควันของมาร์การีนอยู่ที่ 410-430°F (210-221°C) ใช้สำหรับ การย่าง การทอด
มาร์การีนแท่งหนึ่งช้อนโต๊ะที่มีน้ำหนัก 14.2 กรัมประกอบด้วย
แคลอรี 102
ไขมัน 11.5 กรัม
ไขมันอิ่มตัว 2.16 กรัม
คอเลสเตอรอล 0 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 0 กรัม
น้ำตาล 0 กรัม
Nutrition Facts Stick Margarine 1 ช้อนโต๊ะ |
|
---|---|
Calories 100 | Calories from fat 102 |
% Daily Value | |
Total Fat 11g | 17% |
|
11% |
|
|
|
|
|
|
Cholesterol 0mg | 0% |
Sodium 105mg | 4% |
Potassium 2.5mg | 0 |
Total Carbohydrates 0.1g | |
|
|
|
|
Protein 0g | |
Vitamin A | 10% |
Vitamin C | 0.1% |
Calcium | 0 |
Iron |
0.1% |
* Percent Daily Values are based on a 2000 calorie diet |
มาร์การีนประเภทนี้อาจมีแคลอรีน้อยกว่าเนยเล็กน้อย แต่ก็อาจมีไขมันทรานส์ ตามคำแนะนำให้รับประทานไขมันทรานสืไม่เกินร้อยละ1ของพลังงานทั้งหมด ดังนั้นเราจะได้รับไขมันทรานส์20แคลอรี(คิดจากพลังงาน200แคลอรี)หรือประมาณ2กรัมต่อวัน ดังนั้นเรารับมาร์การีนแท่งไม่เกินวันละ1ช้อนต๊ะ(ต้องไม่รับไขมันทรานส์จากแหล่งอื่น)
Nutrition FactsTub Margarine 1 ช้อนโต๊ะ | |
---|---|
Calories 85 | Calories from fat 86 |
% Daily Value | |
Total Fat9.6g | 15% |
|
12% |
|
|
|
|
|
|
Cholesterol 0mg | 0% |
Sodium 75mg | |
Potassium | |
Total Carbohydrates 0.1g | |
|
|
|
|
Protein 0g | |
Vitamin A | |
Vitamin C | |
Calcium | |
Iron | |
* Percent Daily Values are based on a 2000 calorie diet |
เป้นมาร์การีนเหลวดดยนำน้ำมันพืชมาผ่านขบวนการผลิตแต่น้อยกว่า Stick Margarine ทำให้ปริมาณไขมันทรานส์ไม่สูงมาก
มาร์การีนพร่องมันเนย หนึ่งช้อนโต๊ะที่มีน้ำหนัก ประกอบไปด้วย
แคลอรี่ 50
ไขมัน 5.42 กรัม
ไขมันอิ่มตัว 0.67 กรัม
ไขมันทรานส์ 0 กรัม
คอเลสเตอรอล 0 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 0.79 กรัม
น้ำตาล 0 กรัม
มาร์การีนพร่องมันเนยมีปริมาณของน้ำสูงกว่ามาร์การีนทั่วไป นั่นทำให้มันมีแคลอรี และไขมันต่ำ แม้ว่าจะมีไขมันอิ่มตัวน้อยกว่ามาร์การีนทั่วไป แต่ก็อาจมีน้ำมันไฮโดรเจนอยู่บางส่วนอย
Nutrition Facts Light Margarine 1 ช้อนโต๊ะ | |
---|---|
Calories 51 | Calories from fat 51 |
% Daily Value | |
Total Fat5.6g | 9% |
|
7% |
|
|
|
|
|
|
Cholesterol0mg | 0% |
Sodium88 mg | 4% |
Potassium | |
Total Carbohydrates0.1g | |
|
|
|
|
Protein0g | |
Vitamin A | 13% |
Vitamin C | 0% |
Calcium | 0.1% |
Iron | 0% |
* Percent Daily Values are based on a 2000 calorie diet |
มีส่วนผสมของ น้ำ น้ำมันพืช(46%), แป้งมัน, เกลือ, emulsifiers ( soy lecithin), นมผง,สารกันบูด,lactic acid, วิตามิน(A, D), กลิ่นและสี. จะเป็นมาร์การีนที่มีพลังงาน ไขมัน ไขมันทรานส์น้อย
Nutrition Facts Yogurt Margarine 1 ช้อนโต๊ะ | |
---|---|
Calories 46 | Calories from fat 44 |
% Daily Value | |
Total Fat 4.9g | 8% |
|
5% |
|
|
|
|
|
|
Cholesterol 0mg | 0% |
Sodium88mg | 4% |
Potassium9mg | |
Total Carbohydrates0.3g | |
|
|
|
|
Protein0g | |
Vitamin A | 10% |
Vitamin C | 0.1% |
Calcium | 0.5% |
Iron | 0% |
* Percent Daily Values are based on a 2000 calorie diet |
ส่วนผสมได้แก่ น้ำ น้ำมันถั่วเหลือง โยเกิยร์ตไขมันต่ำ น้ำมัปาล์ม แป้งข้าวโพด เกลือ กรด lactic acid ,lecithin (soy),กลิ่น รส และวิตามิน มีไขมันและพลังงานน้อยกว่าเนยร้อยละ50 ใช้แทนเนยในการทาขนมปัง ทอดอาหาร
มาร์การีนบางชนิดมีสารประกอบจากพืชที่เรียกว่า ไฟโตสเตอรอล
Phytosterols มีโครงสร้างคล้ายกับคอเลสเตอรอล เป็นผลให้พวกมันจะแข่งกัน เพื่อการดูดซึมเข้าไปในร่างกายกับคอเลสเตอรอล ทำให้ช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ร่างกายดูดซึม ซึ่งอาจทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดลดลง มาร์การีนกับไฟโตสเตอรอลมีส่วนผสมของน้ำมัน เช่น น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์
อย่างไรก็ตาม ในวารสาร Cardiovascular Research ชี้ให้เห็นว่าไฟโตสเตอรอลอาจมีผลร้ายต่อผนังหลอดเลือด
ผลดีต่อสุขภาพของเนยเทียมขึ้นกับ น้ำมันพืชที่ใช้ หากใช้น้ำมันพืชที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูงเนยเทียมนั้นมีผลดีต่อสุขภาพ ปัจจัยที่สำคัญอีกข้อคือขบวนการผลิตเขยเทียมชนิด Stick Margarine จะมีไขมันทรานส์มากควรหลีกเลี่ยง
ไขมันเชิงซ้อนมีผลดีลดการเกิดโรคหัวใจ แต่ควรจะวังเรื่องการนำไปปรุงอาหารหากปรุงด้วยความร้อนสูงเกินไป ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนจะถูกออกซิไดซ์ได้สารที่ไม่ผลดีต่อสุขภาพ นอกจากนั้นการรับประทานไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนสูงไปอาจจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอ้วน เบาหวาน
ซึ่งจะช่วยลดการดูดซีมคอเลสเตอรอลในเลือด
แต่มีคนที่มีความคิดว่าเนยเทียมหรือมาร์การีนไม่ดีซึ่งมีเหตุผลดังนี้
เนื่องจากเนยเทียมทำมาจากนั้นมันพืชเช่น ถั่วเหลือง น้ำมันคาโนลา น้ำมันดอกทานตะวัน หรือน้ำมันพืชอื่นๆ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนสูงจะออกซิไดซ์ได้ง่าย (ผ่านความร้อนและแสง) และพบว่า PUFA หากคุณใช้มาร์การีนในการปรุงอาหาร
ข้อเท็จจริงที่ว่าไขมันอิ่มตัวไม่เป็นอันตรายและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่เนยเทียมมีไขมันอิ่มตัวน้อย เนยเทียมมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนและไขมันทรานส์ซึ่งมีผลเสียต่อร่างกาย ในขณะเดียวกัน แทนที่จะมีไขมันอิ่มตัวที่เป็นประโยชน์อย่างที่พบในเนยเทียมชนิดอื่นที่เหนือกว่า
นอกจากมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนสูงยังมีไขมันทรานส์สูง การที่ไขมันทรานส์สูงจากขบวนการเติมไฮโดรเจน Hydrogenation เปลี่ยนน้ำมันพืชเหลวให้เป็นไขมันแข็ง ไขมันทรานส์เป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน โรคหัวใจแม้ว่าปริมาณไขมันทรานส์ในผลิตภัณฑ์เนยเทียมจะลดลงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังพบไขมันที่เป็นพิษเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์เนยเทียมได้ตามปกต
เนยเทียมขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น วิตามินเอและเค เนยอุดมไปด้วยวิตามินที่ละลายในไขมัน และยิ่งวัวมีสุขภาพที่ดี เนยก็จะอุดมด้วยสารอาหารมากขึ้น สารอาหารเหล่านี้บางชนิดช่วยปกป้องเราจากโรคหัวใจ
ตัวอย่างเช่น วิตามินเอตามธรรมชาติมีความสำคัญต่อต่อมไทรอยด์และสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
เนยยังมีวิตามินอีที่ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถป้องกันไขมัน PUFA ที่เป็นอันตรายในอาหาร
เนื่องจากมาร์การีนได้มาจากน้ำมันพืชที่ผ่านการแปรรูปอย่างหนัก ผลิตภัณฑ์สุดท้ายจึงไม่มีสารอาหารดังกล่าว ปัจจุบันผู้ผลิตเนยเทียมบางรายเสริมผลิตภัณฑ์ของตนด้วยวิตามินสังเคราะห์ เช่น วิตเอและดี
อย่างไรก็ตาม การจัดการนี้ทำให้เกิดปัญหาตามมา วิตามินเอสังเคราะห์มี ผลเสียต่อร่างกาย
เราทราบดีว่ามาการีนได้มาจากน้ำมันพืชที่ได้จากพืช เช่น ดอกคำฝอย ทานตะวัน ถั่วเหลือง และเมล็ดฝ้าย
พืชเหล่านี้หลายชนิดมีการดัดแปลงพันธุกรรม พืชจีเอ็มโอได้รับการออกแบบให้เป็นพิษต่อศัตรูพืช ในขณะเดียวกันก็ทนต่อยาฆ่าวัชพืชในเชิงพาณิชย์เช่น Roundup ซึ่งหมายความว่าเกษตรกรสามารถฉีดพ่นพืชด้วยยาฆ่าวัชพืช และรู้ว่าพืชผลจะเติบโตต่อไปในขณะที่วัชพืชและแมลงศัตรูพืชตายทั้งหมด
เป็นผลให้สารพิษเช่นไกลโฟเสต (สารออกฤทธิ์ใน Roundup) เข้าสู่อาหารของเราผ่านการบริโภคพืชจีเอ็มโอที่ต้านทานต่อ Roundup เหล่านี้ การบริโภคไกลโฟเสตเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพและปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ทำเนยเป็นขั้นตอนง่ายๆ นมวัวผ่านการพาสเจอร์ไรส์ ครีมขาดมันเนยจะอยู่ด้านบน จากนั้นครีมจะถูกปั่นและกลายเป็นเนย คุณสามารถทำสิ่งนี้ได้เองที่บ้านโดยไม่มีอะไรนอกจากเครื่องตี
สำหรับเนยเทียม กระบวนการจะซับซ้อนกว่าและต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง การสกัดน้ำมันพืชต้องใช้ความร้อนและแรงกดมาก กระบวนการทั้งสองสร้างความเสียหายอย่างมากต่อไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน
น้ำมันที่สกัดออกมาจำนวนมากเหล่านี้มีความเป็นพิษสูงเมื่อผ่านกระบวนการกลั่นแล้ว
ในการขจัดสารพิษเหล่านี้ ผู้ผลิตจะแปรรูปน้ำมันด้วยสารเคมี โดยแก้ไขปัญหาหนึ่งจะก่อปัญหาอีกปัญหาหนึ่ง น้ำมันพืชผ่านการบำบัดด้วยตัวทำละลายเฮกเซน นอกจากเฮกเซนแล้ว สารฟอกขาวและสารกำจัดกลิ่นยังใช้ในการกำจัดรสชาติ สี และกลิ่นที่ไม่ดีอีกด้วย น้ำมันพืชที่เติมไฮโดรเจนบางส่วนมีสีเทาตามธรรมชาติ เนื่องจากสิ่งนี้ค่อนข้างไม่น่าสนใจสำหรับผลิตภัณฑ์อาหาร ผู้ผลิตจึงใส่สีเหลืองลงในมาการีน
Hydrogenation ทำให้มาการ์รีนแข็งตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพที่อุณหภูมิสูงขึ้น มิฉะนั้น อาจละลายเป็นของเหลวเพียงไม่กี่นาทีหลังจากนำออกจากตู้เย็น
น้ำมันพืชถูกเติมไฮโดรเจนโดยการส่งไฮโดรเจนผ่านผลิตภัณฑ์ในขณะที่มีตัวเร่งปฏิกิริยาที่เป็นโลหะ
กระบวนการเติมไฮโดรเจนนี้จะเปลี่ยนแปลงโมเลกุลในน้ำมันและสามารถสร้างไขมันทรานส์ได้
มีการเติมสารกันบูดลงในผลิตภัณฑ์มาการีนที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าเวลาการเก็บรักษาจะคงตัวได้นานขึ้น มีการใช้บิวทิเลตไฮดรอกซีโทลูอีน (หรือ BHT) ในผลิตภัณฑ์ที่ได้จากน้ำมันพืชเป็นประจำเพื่อให้ได้สิ่งนี้
BHT มักถูกขนานนามว่าเป็น 'ปลอดภัย' แต่มีการศึกษาจำนวนมากเกี่ยวกับ BHT ที่แสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น การศึกษาในปี 1984 พบว่าการบริโภคส่งเสริมมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในหนู
ในขณะเดียวกัน การศึกษาในปี 1988 พบว่า BHT เป็นพิษและส่งเสริมเนื้องอก
เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับเงินบาท จึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคและปลอดภัยกว่าเสียใจ
สเตอรอลจากพืช Sterols เกิดขึ้นตามธรรมชาติในพืชและสัตว์ มีผลลดคอเลสเตอรอลในมนุษย์ การบริโภคสเตอรอลเหล่านี้อาจทำให้ระดับสารต้านอนุมูลอิสระและแคโรทีนอยด์ในร่างกายลดลง ซึ่งนำไปสู่มะเร็งและความพิการแต่กำเนิด (บางประเทศกำหนดให้ต้องรับประทานอาหารที่มีแพลนท์สเตอรอลที่ลดคอเลสเตอรอลและควรเตือนคำเตือนเนื่องจากความเสี่ยงนี้) นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในสัตว์ที่แสดงให้เห็นว่าการบริโภคสเตอรอลจากพืชนำไปสู่ปัญหาต่อมไร้ท่อและภาวะมีบุตรยาก
เนยเทียมทำมาจากน้ำมันพืชซึ่งเป็นของเหลวผ่านขบวนการผลิตจนเป็นจนเป็นของแข็ง ในขบวนการผลิตทำให้คุณค่าของสารอาหารบางชนิดสูญหายไปและเกิดสารหรือไขมันที่ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพเช่นไขมันทรานส์ นอกจากนั้นการนำเนยเทียมมาปรุงอาหารด้วยความร้อน ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนจะสลายเป็นสารที่ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ดังนั้นการใช้เนยเทียมจะต้องศึกษาและเลือกชนิดของเนยเทียม
เรียบเรียงวันที่ 6/1/2566
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
เอกสารอ้างอิง