ความดันโลหิตสูงหลังหัวใจวาย: เรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจ
หัวใจวายคืออะไร?
หัวใจวาย (Heart Failure) หรือบางครั้งเรียกว่าภาวะหัวใจล้มเหลวเป็นภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามความต้องการของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย โดยไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นเฉียบพลันเสมอไป แต่อาจเกิดจากการทำงานของหัวใจที่เสื่อมลงเรื่อย ๆ การรักษาความดันโลหิตสูงจะป้องกันมิให้หัวใจวาย
ประโยชน์ของการรักษาความดันโลหิตสูงในผู้ป่วยโรคหัวใจวาย
- ลดภาระการทำงานของหัวใจ: หัวใจที่ได้รับความเสียหายจากโรคหัวใจวาย ต้องทำงานหนักขึ้นในการสูบฉีดเลือด การลดความดันโลหิต ช่วยลดภาระการทำงานของหัวใจ และลดความเสี่ยงของภาวะหัวใจล้มเหลว
- ป้องกันการเกิดโรคหัวใจวายซ้ำ: ความดันโลหิตสูง เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือด ซึ่งอาจอุดตันหลอดเลือดหัวใจ และทำให้เกิดโรคหัวใจวายซ้ำได้
- ชะลอการเสื่อมของหัวใจ: ความดันโลหิตสูง เร่งให้เกิดการเสื่อมของกล้ามเนื้อหัวใจ การควบคุมความดันโลหิต ช่วยชะลอการเสื่อมของหัวใจ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
- ลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น หัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและโรคหลอดเลือดสมอง
- ป้องกันความเสียหายต่ออวัยวะอื่น ๆ เช่น ไต
- ช่วยให้ผู้ป่วยมีพลังงานและความสามารถในการทำกิจกรรมประจำวันมากขึ้น
- เพิ่มอายุขัยและคุณภาพชีวิตโดยรวม
เป้าหมายการรักษา
เป้าหมายหลักในการรักษาความดันโลหิตสูงในผู้ป่วยโรคหัวใจวาย คือ
- ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม: โดยทั่วไป แพทย์จะแนะนำให้ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ต่ำกว่า 130/80 mmHg หรือต่ำกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพของผู้ป่วยแต่ละราย
- ป้องกันการเกิดโรคหัวใจวายซ้ำ และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
แนวทางการรักษา
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- ควบคุมอาหาร: ลดอาหารเค็ม, อาหารไขมันสูง, และเพิ่มผักผลไม้
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: เลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย เช่น เดิน, ว่ายน้ำ, ปั่นจักรยานเดินเร็วหรือโยคะเบา ๆ เป็นประจำ แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มกิจกรรม
- ควบคุมน้ำหนัก: ลดน้ำหนักหากมีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน
- งดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- จัดการความเครียด: ฝึกผ่อนคลาย, นั่งสมาธิใช้เทคนิคการหายใจลึกหรือการทำสมาธิ
- การใช้ยา
การใช้ยาลดความดันโลหิต
ยาคือหัวใจสำคัญในการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจวายร่วมกับความดันโลหิตสูง โดยยาแต่ละชนิดมีบทบาทแตกต่างกันไปแพทย์จะพิจารณาจ่ายยาลดความดันโลหิตชนิดต่างๆ ขึ้นอยู่กับสภาพของผู้ป่วยแต่ละราย เช่น:
3. การติดตามผลการรักษา
ผู้ป่วยโรคหัวใจวายควรพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตามความดันโลหิต การทำงานของหัวใจ และผลข้างเคียงจากยา การปรับเปลี่ยนยาหรือปริมาณอาจจำเป็นตามอาการของผู้ป่วย
- พบแพทย์ตามนัดหมาย: เพื่อติดตามผลการรักษา, ตรวจวัดความดันโลหิต, และตรวจร่างกาย
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด: รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง, ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม, และดูแลสุขภาพ
สรุป
การรักษาความดันโลหิตสูงในผู้ป่วยโรคหัวใจวายต้องอาศัยการดูแลอย่างรอบด้าน ทั้งการใช้ยา การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการติดตามผลอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและทำให้ผู้ป่วยสามารถมีชีวิตที่สมบูรณ์และมีคุณภาพมากขึ้น.
ทบทวนวันที่ 15112024
โดย นายแพทย์ ประพันธ์ ปลื้มภาณุภัทร อายุรแพทย์,แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว