การป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
หลักในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองจะต้องค้นหาปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง เมื่อค้นหาพบแล้วก็ให้ทำการปรับปรุง ปัจจัยเสี่ยงได้แก่
- ปัจจัยเสี่ยงเรื่องโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
- ปัจจัยเสี่ยงเรื่องพฤติกรรมสุขภาพ
- ตระรู้ถึงอาการเตือนและรีบรักษา
ปัจจัยเสี่ยงเรื่องโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
หัวใจเต้นสั่นพริ้ว Atrial Fibrillation
ผู้ป่วยที่มีการเต้นของหัวใจผิดปกติที่เรียกว่าหัวใจเต้นสั่นพริ้ว จะมีความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดจากหัวใจไปอุดหลอดเลือดในสมองที่เรียกว่า embolic stroke ผู้ป่วยและผู้ดูแลจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับหัวใจเต้นสั่นพริ้วดังต่อไปนี้
- หัวใจเต้นสั่นพริ้วเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดโรคสมองขาดเลือด
- หัวใจเต้นสั่นพริ้วพบมากในผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี
- ผู้ที่เป็นหัวใจเต้นสั่นพริ้วส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ทำให้วินิจฉัยได้ยาก
- แพทย์สามารถให้การดูแลผู้ป่วยหัวใจเต้นสั่นพริ้วได้ดี
- ร้อยละ15ของผู้ป่วยสมองขาดเลือดจะพบว่ามีโรคหัวใจเต้นสั่นพริ้วร่วมด้วย
- การดูแลผู้ที่หัวใจเต้นสั่นพริ้วจะป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ร้อยละ 80
- ผู้ที่หัวใจเต้นสั่นพริ้วจะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคสมองขาดเลือดห้าเท่าของคนปกติ
การประเมินความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
ปัจจัยเสี่ยง |
เสี่ยงสูง |
ให้ระวัง |
เสี่ยงต่ำ |
ความดันโลหิตสูง |
>140/90 หรือไม่ทราบ |
120-139/80-89 |
<120/80 |
หัวใจเต้นสั่นพริ้ว |
ไม่ทราบ |
หัวใจเต้นปกติ |
หัวใจเต้นปกติ |
สูบบุหรี่ |
สูบบุหรี่ |
พยายามเลิกสูบ |
ไม่สูบบุหรี่ |
ระดับคอเลสเตอรอล |
>240 |
200-239 |
<200 |
เบาหวาน |
เป็น |
เสี่ยงต่อเบาหวาน |
ไม่เป็น |
ออกกำลังกาย |
ไม่ออกกำลังกาย |
ออกกำลังกายบ้าง |
ออกกำลังประจำ |
น้ำหนัก |
อ้วน |
น้ำหนักเกินเล็กน้อย |
น้ำหนักปกติ |
โรคหลอดเลือดในครอบครัว |
มีประวัติ |
ไม่แน่ใจ |
ไม่มี |
ผลรวม |
|
|
|
การแปรผล
- หากท่านมีอาการเหมือนในตารางให้ 1 คะแนน
- ในช่องผลรวมของความเสี่ยงสูงหากได้คะแนนเท่ากับหรือมากกว่า3 แสดงว่าท่านมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองสูง จำเป็นจะต้องได้รับการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
- สำหรับช่องระวังหากได้คะแนน 4-6 คุณจะต้องรีบความคุมปัจจัยเสี่ยง
- ส่วนในช่องความเสี่ยงต่ำหากมีคะแนน 6-8 คุณควบคุมได้ดีแล้ว
ท่านจะต้องทราบอาการเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง และรีบไปโรงพยาบาล
ปัจจัยเสี่ยงเรื่องพฤติกรรมสุขภาพ
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
อาหาร
การรับประทานอาหารจานสุขภาพจะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง มีสุขภาพดีขึ้น และลดการเกิดโรคอ้วนลงพุง รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ รับประทานผักและผลไม้ให้มาก รับประทานธัญพืช ปลา ถั่ว นมพร่องมันเนย เนื้อไก่ เนื้อไม่ติดมัน หลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัว เกลือ น้ำตาล แนวทางอาหารเพื่อสุขภาพได้แก่
- ใช้จานรัศมี 9 นิ้วแบ่งจานออกเป็นสี่ส่วน
- ให้รับประทานผัก 2 ส่วนหรือครึ่งจาน โดยเน้นการรับประทานผักสด และควรจะรับผักหลายสี
- ให้รับประทานอาหารแป้งหนึ่งส่วน โดยใช้ธัญพืชครบส่วน whole grain ส่วนอาหารของคนไทยคือข้าวกล้อง โดยปกติไม่เกิน 2 ทัพพี หากรับประทานขนมปังต้องเลือกชนิด whole wheat
- ส่วนเนื้อสัตว์ให้รับประทานเนื้อสีขาว เช่นเนื้อปลา เนื้อไก่ไม่ติดหนัง ส่วนเนื้อสีแดงให้รับประทานให้น้อยลง เช่นเนื้อหมูต้องไม่ติดมันหือหนัง หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป เช่นไส้กรอก เบคอน แฮม
ตัวอย่างอาหาร 2-1-1
- ลดการบริโภคน้ำตาลต้องไม่เกินวันละ 6 ชช โดยการหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
- ลดการบริโภคเกลือ
- หลีกเลี่ยงไขมันทรานส์
- ดื่มสุราไม่เกิน 2 หน่วยสุราสำหรับผู้ชาย และไม่เกิน 1 หน่วยสำหรับผู้หญิง
การออกกำลังกาย
ผู้ที่ออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์จะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง คำแนะนำในการอกกำลักาย
- ผู้ที่ออกกำลังหนักปานกลางได้แก่ การเดินเร็ว การขี่จักรยาน การ water aerobics ให้ออกสัปดาห์ละ 150นาที และมีการออกกำลังกายชนิดยกน้ำหนักสัปดาห์ละ2วันเป็นอย่างน้อย
- ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนักเช่น การจ๊อกกี้ การวิ่ง การว่ายน้ำ ให้ออกสัปดาห์ละ 75 นาที และมีการออกกำลังกายชนิดยกน้ำหนักสัปดาห์ละ2วันเป็นอย่างน้อย
- หากไม่สามารถออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง 30 นาทีก็สามารถแบ่งเป็นครั้งละ10นาที
ให้หยุดสูบบุหรี่
ผู้ที่สูบบุหรี่จะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มสองเท่าของคนไม่สูบ เนื่องจากการสูบบุหรี่จะทำให้เกิดโรคหลอดเลือดแข็ง เกิดลิ่มเลือดได้งาย และเพิ่มคราบที่ผนังหลอดเลือด ควรจะเลิกสูบบุหรี่ งดการสูบบุหรี่ เนื่องจากสารเคมีในบุหรี่จะทำให้เกิดโรคหลอดเลือดแข็งและเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนั้นคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่หากได้รับควันบุหรี่จากผู้ที่สูบก็ได้รับความเสี่ยงเช่นกัน
การดื่มสุรา
การดื่มสุรามากจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดสมองจึงแนะนำให้ดื่มไม่เกิน2 และ1 หน่วยสุราในชายและหญิงตามลำดับ
หนึ่งหน่วยสุราเท่าแอลกอออล์ 14 กรัม
- เท่าเบียร์(แอลกอฮอล์ 5%) 12 ounces(360 cc)
- เท่ากับไวน์ 1 แก้ว
- สุรา 45 ซีซี
ควบคุมน้ำหนัก
ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยให้ดัชนีมวลกายประมาณ23
- ลดพลังจากอาหารเหลือ 1,500 to 2,000 calories ต่อวัน
- ออกกำลังกายเพิ่มขึ้น
โรคที่เป็นความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
โรคที่เป็นความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้แก่
- ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตสูงจะทำให้ผนังหลอดเลือดหนาและเกิดโรคหลอดเลือดแข็ง ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงจะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าผู้ที่มีความดันปกติถึงหนึ่งเท่าครึ่ง การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การลดเค็มและการใช้ยาเพื่อคุมความดันโลหิต
- ลดปริมาณเกลือเหลือ 1,500 milligramsต่อวัน ประมาณครึ่งช้อนชา).
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวเช่น burgers, cheese, และ ice cream.
- รับประทานผักและผลไม้วันละ6-8 ทัพพี รับประทานปลา 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนแป้งใช้ข้าวกล้องแทนข้าวสวย ดื่มนมไขมันต่ำ
- ออกกำลังกายวันละ 30นาที สัปดาห์ละห้าวัน
- หยุดสูบบุหรี่
- หัวใจเต้นสั่นพริ้ว พบบ่อยในผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคหัวใจเต้นสั่นพริ้วจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดในหัวใจและลอยไปอุดหลอดเลือดสมอง การให้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดสำหรับผู้ที่มีโรคหัวใจเต้นสั่นพริ้ว
- ไขมันในเลือดสูงจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ต้องคุมระดับคอเลสเตอรอลให้ต่ำกว่า 200 มก
- โรคเบาหวาน จะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองเพิ่ม 4 เท่า
- โรคหลอดเลือดแดงแข็งเกิดจากการสะสมคราบไขมันที่ผนังหลอดเลือดทำให้หลอดเลือดตีบ และเกิดลิ่มเลือดไปอุดหลอดเลือด
- หลอดเลือดแดงที่คอตีบ carotid artery stenosis จะมีลิ่มเลือดไปอุดหลอดเลือดทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง หากสงสัยแพทย์จะตรวจ ultrasound หลอดเลือดการให้ Aspirin หรือยาต้านเกล็ดเลือดสำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดแข็ง
สำหรับความเสี่ยงที่ไม่สามารถแก้ไขได้
- เพศ พบว่าพบโรคหลอดเลือดสมองในชายมากกว่าผู้หญิงเมื่ออายุน้อย แต่เมื่ออายุมากขึ้นจะพบในหญิงมากกว่าชาย
- อายุ พบโรคหลอดเลือดสมองมากเมื่ออายุมากกว่า 55 ปี และทุก 10 ที่ปีความเสี่ยงของการเกิโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มเป็นสองเท่า
- ครอบครัวที่มีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดสมองสมาชิกในครอบครัวจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
- โรคสมองขาดเลือดชั่วคราว (TIA) มีโอกาศเกิดโรคหลอดเลือดสมองร้อยละ 17 ภายใน 90 วัน ส่วนใหญ่จะเกิดภายใน 1 สัปดาห์ ผู้ป่วยที่เป็นโรคสมองขาดเลือดชั่วคราวจะต้องได้รับยาป้องกันหลอดเลือสมอง